ขึ้นชื่อว่าการเดินทางท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางภายในประเทศ หรือการเดินทางในต่างประเทศ ก็ล้วนแล้วแต่มีความเสี่ยงเกิดขึ้นทั้งสิ้น มากน้อยแตกต่างกันไปตามภูมิภาคและท้องถิ่น บางแห่งอาจมีความปลอดภัยค่อนข้างมาก แต่บางแห่งก็อาจต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ ไม่เพียงแค่เรื่องของการโจรกรรม หรือทำของหายเท่านั้น ที่ประกันเดินทางจะช่วยแบ่งเบาความเสียหายให้น้อยลงได้ แต่ยังมีเรื่องของสุขภาพร่างกาย และอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกสถานที่อีกด้วย
ก่อนจะไปดูเรื่องทำของหาย เราควรจะรู้ในเบื้องต้นก่อนว่าโดยทั่วไปแล้ว ประกันเดินทางคุ้มครองการเดินทางให้เราในด้านใดบ้าง เพื่อจะได้เลือกแผนประกันเดินทางได้อย่างเหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุด
ความคุ้มครองโดยทั่วไปของประกันเดินทาง
- ผลประโยชน์การเสียชีวิต การสูญเสียอวยัวะ สายตาหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงเนื่องจากอุบัติเหตุ
- ผลประโยชน์การรักษาพยาบาล
- ผลประโยชน์การรักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นในประเทศไทย
ถ้ายังไม่ได้รับการรักษา กลับมาถึงไทยแล้วต้องเข้ารับการรักษาภายใน 7 วัน และสามารถรักษาต่อเนื่องได้อีก 21 วัน
แต่ถ้าได้รับการรักษาจากต่างประเทศมาแล้ว สามารถกลับมารักษาที่ไทยต่อได้อีก แต่ต้องมาเข้ารับการรักษาภายใน 21 วัน
- ผลประโยชน์ค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพื่อเยี่ยมผู้ป่วยที่โรงพยาบาล
- ผลประโยชน์รายวันสำหรับการรักษาตัวในโรงพยาบาลในฐานะผู้ป่ วยใน
- ชดเชยค่าโทรศัพท์ในกรณีฉุกเฉิน
- ผลประโยชน์การเคลื่อนย้ายเพื่อการรักษาพยาบาลฉุกเฉินหรือการเคลื่อนย้ายกลับประเทศภูมิลำเนา หรือผลประโยชน์ค่าใช้จ่ายในการส่งศพหรืออัฐิกลับประเทศภูมิลำเนา
- ผลประโยชน์ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
- ผลประโยชน์การเลื่อนหรอืการบอกเลิกการเดินทาง
- ผลประโยชน์ค่าใช้จ่ายในการลดจำนวนวันเดินทาง รวมถึงการจี้เครื่องบิน
- ผลประโยชน์การสูญหายของเงินส่วนตัว
ซึ่งต้องเป็นการสูญหายที่มีสาเหตุมาจากถูกจี้ ปล้น ชิงทรัพย์ โจรกรรม หรือถูกกรีดกระเป๋า ระหว่างเดินทางในต่างประเทศ ซึ่งมักจะคุ้มครองเงินสด ธนบัตร เช็คเดินทาง หรือดราฟท์ แต่ไม่รวมบัตรเครดิตทุกชนิด บัตรเดินทาง ใบหุ้น ตั๋วเงิน หรือตั๋วสัญญาใช้เงิน ซึ่งผู้เอาประกันภัยมักต้องรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก และต้องแจ้งความกับตตำรวจภายใน 24 ชม.
อย่างไรก็ตาม ประกันมักจะไม่คุ้มครองกรณีที่ผู้เอาประกันภัยหลงลืม ละเลย หรือทำหายโดยไม่รู้ตัว ถูกล้วงกระเป๋า ทะเลาะวิวาท ก่ออาชญากรรมหรือถูกจับกุม หรืหลบหนีการจับกุม ตกอยู่ภายใต้ฤทธิ์สุราหรือยาเสพติด
- ผลประโยชน์การสูญเสียหรือความเสียหายของกระเป๋าเดินทางหรือทรัพย์สินส่วนตัว
กรณีที่กระเป๋าเดินทางหาย หรือเสียหายระหว่างเดินทางในต่างประเทศ ถูกชิงทรัพย์ โจรกรรม หรือปล้นทรัพย์ เพื่อเอากระเป๋าเดินทางหรือทรัพย์สินส่วนตัวไป ซึ่งอยู่ในความดูแลของพนักงานโรงแรม หรือบริษัทขนส่ง หรือ เป็นผลจากการถูกกรีดกระเป๋า ถูกบังคับอย่างรุนแรง ข่มขู่หรือขู่เข็ญเพื่อเอาทรัพย์ไป ทางประกันมักจะชดเชยเป็นเงินหรือค่าซ่อมแซมให้
- ผลประโยชน์การสูญเสียหรือความเสียหายของกระเป๋าเดินทาง ทรัพย์สินรวมถึงคอมพิวเตอร์โน้ตบุคอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ
ซึ่งผู้เอาประกันต้องแจ้งความกับตำรวจภายใน 24 ชม. และไม่คุ้มครองการเสียหาย ของอัญมณี ฟันปลอม เลนส์ รถยนต์ ข้อมูลในโน้ตบุค หรือจากสาเหตุที่เป็นเพราะเจ้าตัวหลงลืม หรือวางทิ้งไว้เอง
- ผลประโยชน์ความค้มุ ครองเอกสารการเดินทาง
ทางประกันจะชดเชยค่าใช้จ่ายเพื่อขอรับหนังสือเดินทาง วีซ่า ตั๋วเดินทางใหม่แทน ในกรณีที่เอกสารสูญหายจากการถูกจี้ ปล้น ชิงทรัพย์ โจรกรรม ถูกกรีดกระเป๋า หรือ เสียหายจากภัยธรรมชาติโดยต้องแจ้งความกับตำรวจภายใน 24 ชม. แต่ไม่คุ้มครองกรณีหลงลืม ทำหายเองโดยไม่รู้ตัว หรือถูกล้วงกระเป๋า
- ผลประโยชน์การล่าช้าของกระเป๋าเดินทาง
- ผลประโยชน์การพลาดการต่อเที่ยวบิน
- ผลประโยชน์ชดเชยความล่าช้าในการเดินทาง
ไปเที่ยวแล้วทำของหาย ประกันเดินทางจะจ่ายไหม?
ก่อนอื่นเราต้องมาดูแผนประกันเดินทางที่เราเลือกกันก่อน ว่าในแผนนั้นคุ้มครองในเรื่องของการสูญหายของมทรัพย์สินหรือไม่ เพราะความคุ้มครองในข้อนี้ ไม่ได้มีอยู่ในทุกแผน ไม่ได้มีอยู่ทั่วไปในทุกแผนของประกันทุกแบรนด์ ดังนั้นหากตรวจสอบดูแล้วตนเองไม่ได้เลือกแผนที่คุ้มครองในเรื่องของทรัพย์สินสูญหายเอาไว้ ก็เป็นอันว่าไม่คุ้มครองอย่างแน่นอน
ในกรณีที่ตรวจสอบแผนประกันการเดินทางแล้วพบว่าได้เลือกแผนที่มีการคุ้มครองในเรื่องทรัพย์สินสูญหายไว้ ดีใจด้วยครึ่งหนึ่ง ที่ยังพอจะมีความคุ้มครองอยู่บ้าง แต่ยังคงต้องมาลุ้นกัน เพราะสาเหตุของการสูญหายนั้น จะเป็นตัวชีวัดว่าประกันเดินทางจะคุ้มครอง หรือจ่ายให้เราหรือไม่
สาเหตุของการสูญหายของทรัพย์สิน ที่ประกันเดินทางมีแนวโน้มที่จะจ่ายให้เรา
- ถูกจี้ ปล้น
- ถูกชิงทรัพย์
- ถูกโจรกรรม
- ถูกกรีดกระเป๋า
- เกิดความเสียหายเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ
ซึ่งสาเหตุทั้งหมดนี้ จะต้องมีหลักฐานยืนยันเป็นร่องรอยของความเสียหายที่เกิดขึ้น เช่น รอยงัดแงะ หรือร่องรอยอะไรก็ตามที่แสดงให้เห็นว่ามีเหตุเกิดขึ้นจริง รวมทุ้งต้องดำเนินการแจ้งความกับสถานีตำรวจในท้องถิ่นนั้น ๆ ภายหลังเกิดเหตุ ภายใน 24 ชม.
สาเหตุของการสูญหายของทรัพย์สิน ที่ประกันเดินทางมีแนวโน้มที่จะไม่จ่ายให้เรา
- หลงลืม
- ละเลย
- ทำหายโดยไม่รู้ตัว
- ถูกล้วงกระเป๋า
- ทะเลาะวิวาท
- ก่ออาชญากรรมหรือถูกจับกุม หรือหลบหนีการจับกุม
- ตกอยู่ภายใต้ฤทธิ์สุราหรือยาเสพติด
ถ้าสาเหตุที่ทำให้ของหายไป เข้าข่ายตามด้านบน โอกาสที่ประกันเดินทางจะจ่ายให้ก็ลดน้อยลงเต็มที หรืออาจจะหมายถึงการไม่ได้รับความคุ้มครองเลย เนื่องจากเงื่อนไขของประกันเดินทางมักจะระบุไว้อย่างละเอียดและชัดเจนว่าจะคุ้มครองสาเหตุใด และไม่คุ้มครองสาเหตุใด ดังนั้นหากคุณไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีการเกิดเหตุถูกกระทำขึ้นจริง และไร้ร่องรอยงัดแงะ ประกันก็จะถือว่าเข้าข่ายของการทำหายโดยไม่รู้ตัว หรือหลังลืมเอง ละเลยเอง จึงไม่จ่ายให้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบระหว่างการทำประกันเดินทาง และการไม่ทำประกันเดินทาง การเลือกที่จะทำประกันเดินทางนั้นได้เปรียบมากกว่าอย่างประเมินค่าไม่ได้อยู่แล้ว เพราะประกันเดินทางไม่ได้คุ้มครองแต่เรื่องของทรัพย์สินและการเดินทางเท่านั้น แต่ยังคุ้มครองถึงสุขภาพและร่างกายของเราทุกคนอีกด้วย หากเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นในระหว่างการเดินทางหรือในระหว่างที่อยู่ต่างประเทศ นอกจากจะลำบากมากแล้ว ค่าใช้จ่ายยังสูงมากด้วย การมีประกันเดินทางช่วยรองรับไว้นั้นดีกว่าแน่นอน ส่วนเรื่องทรัพย์สิน ก็เพียงเพิ่มความระมัดระวังและมีสติมากขึ้นก็น่าจะเพียงพอ