คุณผู้อ่านเคยได้ยินเรื่องเหรียญ 25 สตางค์ และเหรียญ 50 สตางค์ขาดแคลนบ้างไหมค่ะ เพราะจริง ๆ แล้วสถานการณ์เหรียญ 25 สตางค์ และ 50 สตางค์ ไม่ควรจะใช้แค่คำว่าขาดแคลนเท่านั้น แต่ควรจะใช้คำว่า ขาดแคลนหนักมากจนอาจจะเรียกได้ว่าขั้นวิกฤตนั้น เป็นเพราะจากสถานการณ์ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งถึงกับติดป้ายที่หน้าร้านเพื่อแจ้งลูกค้าว่า “เรียนลูกค้าทุกท่าน เนื่องจากโรงกษาปณ์ งดผลิตเหรียญ 25 สตางค์ และ 50 สตางค์ ชั่วคราว ซึ่งไม่มีกำหนดเวลาการผลิต ทางห้างฯ ขออนุญาตทอนเป็นลูกอมแทนเหรียญดังกล่าว ขออภัยในความไม่สะดวกในครั้งนี้ ขอขอบพระคุณลูกค้าทุกท่านเป็นอย่างสูงที่มาใช้บริการ พร้อมกับติดป้ายรับแลกเหรียญ 25 สตางค์ และ 50 สตางค์ ซึ่งปัญหาเหรียญ 25 สตางค์และ 50 สตางค์ขาดแคลนนั้น ร้านสะดวกซื้อส่วนใหญ่จะแก้ปัญหาด้วยการรับแลกเหรียญ หรือ บางแห่งอาจจะใช้วิธีปัดเศษขึ้นไปเลย เพื่อจะได้ไม่ต้องใช้เหรียญ 25 หรือ 50 สตางค์ทอนลูกค้า
อีกกลุ่มหนึ่งธุรกิจหนึ่งที่ได้รับผลกระทบของการขาดแคลนเหรียญ คือ รถโดยสารสาธารณะ โดยเฉพาะรถเมล์ร้อนสีครีมแดง ที่มีค่าโดยสาร 6.50 บาท ซึ่งกระเป๋ารถเมล์ สาย 84 บอกว่า ปกติกระเป๋ารถเมล์ 1 คน จะแลกเหรียญทั้ง 2 ชนิดได้วันละ 100 บาท ช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ฝ่ายการเงินให้แลกได้ วันละ 50 บาท และล่าสุดในช่วง 2 เดือนมานี้ แลกได้เพียงวันละ 30 บาท บางทีไม่พอทอนผู้โดยสารจึงยังไม่เก็บค่าโดยสาร รอจนกว่าจะได้เหรียญสลึงกับเหรียญ 50 สตางค์ มาก่อน
สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ นายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า ขณะนี้กรมธนารักษ์ประสบปัญหาขาดแคลนเหรียญ 25 สตางค์และ 50 สตางค์ เนื่องจากปริมาณเหรียญผลิตออกใช้ในระบบมีการหมุนเวียนค่อนข้างน้อย เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่นำเหรียญทั้ง 2 ออกมาใช้จ่าย เพราะเห็นว่าไม่สะดวก ซึ่งทางกรมธนารักษ์กำลังเร่งหาทางแก้ปัญหาให้มีการนำเหรียญทั้ง 2 ให้ออกมาใช้เพิ่มมากขึ้นเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยการส่งทีมงานเข้าไปรับแลกเหรียญในแต่ละพื้นที่มีเหรียญอยู่จำนวนมาก เช่น วัดดังที่มีการทำบุญจำนวนมาก เช่น ที่วัดเขาคิชกูฎ ได้เงินถึง 10 ล้านบาท เป็นเหรียญทุกประเภท
และกรมธนารักษ์ได้ตั้งศูนย์รับแลกเหรียญที่จังหวัดใหญ่ คือ เชียงใหม่ ภูเก็ต นครสวรรค์ ขอนแก่น อุบลราชธานี สงขลา และสุราษฎร์ธานี เพื่อให้การกระจายเหรียญสะดวกขึ้น เพราะสามารถกระจายไปยังพื้นที่ใกล้เคียงได้ จากที่แต่เดิมต้องเบิกเหรียญจากส่วนกลางอย่างเดียว
พร้อมหาทางการแก้ไขปัญหาในระยะยาว โดยว่าจ้างให้ มหาวิทยาลัยมหิดล ศึกษาปัญหาให้ชัดเจนถึงสาเหตุของการขาดแคลนเหรียญกษาปณ์ และให้แต่ละพื้นที่เข้าไปร่วมสำรวจ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาการขาดแคลนเหรียญกษาปณ์ต่อไป