“ขอโทษด้วยนะคะ ห้องเต็มหมดแล้วค่ะ” สาวพนักงานประจำบังกะโลพูด พร้อมกับส่งยิ้มแหยๆ ให้กับ “พลอย” สาวนักศึกษาวัย 22 ปี ที่ตั้งใจจะมาเช่าบังกะโลแห่งนี้อยู่ พลอยพยักหน้าเป็นเชิงว่า เข้าใจแล้ว ก่อนจะหอบเอาข้าวของ สัมภาระของตัวเองออกมาจากบังกะโล พร้อมทั้งในใจก็สาปแช่งโรงแรม ที่เธอได้จองไว้ก่อนหน้านี้ แต่จู่ๆ ทางโรงแรมกลับยกห้องที่เธอจองให้กับฝรั่งไปเสียอย่างนั้น พอเธอไปโวยวาย โรงแรมกลับให้เหตุผลว่า ลืม และบอกให้เธอมาหาห้องพักเอาเอง ในบริเวณนี้มีบังกะโลอยู่มากมาย ซึ่งพลอยก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ทำได้แค่หอบสัมภาระออกมา แล้วเดินวนหาทั้งโรงแรม ทั้งที่พักใกล้ๆ กับหาด แต่ไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็ได้รับคำตอบว่า เต็ม หมดทุกที่
พลอยเดินหอบของเลาะไปตามชายหาดอย่างเหนื่อยหน่าย เลี้ยวเข้าทุกซอย ที่มีบังกะโล หรือโรงแรมตั้งอยู่ แต่ก็ถูกปฏิเสธมาทุกที่ จนในที่สุดก็มาถึงซอยสุดท้ายสุดหาด พลอยรู้สึกว่า ซอยนี้ดูค่อนข้างรก และเปลี่ยวกว่าซอยอื่นๆแต่ก็พอเห็นว่ามีหลังคา ที่น่าจะเป็นหลังคาบังกะโลตั้งเรียงรายอยู่ เธอเลยเดินเข้าไป ไม่ผิดจากที่คาดไว้นัก ภายในซอยนี้ เป็นที่ตั้งของบังกะโลจริงๆ เป็นบังกะโลขนาดกลางๆ แต่ค่อนข้างเงียบสงบ มีรถจอดอยู่ประมาณ 4-5 คัน มีคนเดินไปมาอยู่บ้าง แต่เนื่องจากตอนนี้มันก็โพล้เพล้แล้ว ถ้าไม่รีบเข้าไปหาห้อง คืนนี้คงต้องได้นอนริมหาด หรือไม่ก็กลางป่าแน่ๆ
พลอยเดินเข้าไปที่ตึกสำนักงานบังกะโล ซึ่งเป็นอาคาร 2 ชั้น ชั้นล่างมีเคาน์เตอร์ที่จัดไว้อย่างสวยงาม มีพนักงาน 2 คน กำลังยืนให้บริการลูกค้าอยู่ และรอบๆ มีโซฟา ที่ตอนนี้กำลังมีทั้งคนไทย และฝรั่ง นั่งกระจายกันไป
“สวัสดีค่ะ ติดต่ออะไรคะ” พนักงานถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ไม่ทราบว่าที่นี่ยังมีห้องพักเหลืออยู่บ้างไหมคะ” พลอยถามกับพนักงานทันที
หนึ่งในพนักงาน หันไปหยิบแฟ้ม ที่คาดว่าน่าจะเป็นรายละเอียดห้องพักมาดู แล้วก็ตอบมาว่า มีค่ะ
พลอยถอนหายใจอย่างโล่งอก คิดในใจว่า ได้ที่พักสักที
พนักงานหยิบกุญแจจากล็อกเกอร์หลังเคาน์เตอร์ออก มา ก่อนจะบอกกับพลอยว่า เชิญค่ะ เมื่อได้ยินอย่างนั้น พลอยเลยเดินตามพนักงานไปทันที บ้านที่พลอยได้พักนั้น อยู่ห่างจากด้านหน้าของบังกะโลพอสมควร แต่ยังมีบ้านหลังอื่นที่มีคนพักรายล้อม เธอเลยรู้สึกอุ่นใจ เพราะปกติ พลอยเป็นคนกลัวผีมาก กะว่า ถ้าเกิดเจอผีขึ้นมา จะได้ออกมาร้องเรียกให้คนช่วยได้
พนักงานเปิดบ้านให้ พร้อมกับบอกว่า เชิญตามสบายนะคะ แล้วก็หันหลังเดินกลับไป
พลอยขนของเข้าไปในบ้านพักทันที สภาพภายในบ้าน ก็เหมือนกับบังกะโลทั่วไป มีเตียง โต๊ะ ทีวี ห้องน้ำ แอร์ ตามปกติ สิ่งที่แปลกอย่างหนึ่งคือ พลอยรู้สึกว่า เมื่อมองจากหน้าต่างกระจกออกมา วิวข้างนอกมืดมาก มองไม่เห็นอะไรเลย ราวกับว่าวันนี้บังกะโลปิดไฟหมดอย่างนั้นแหละ ซึ่งพลอยก็แอบคิดในใจว่า จะประหยัดไฟอะไรกันนักหนา ขนาดไฟทางเดินยังไม่เปิด แล้วถ้าเกิดลูกค้าเดินออกไปแล้วโดนงูกัด ใครจะรับผิดชอบ หลังจากนั้น พลอยก็ไปอาบน้ำ ทำธุระส่วนตัวตามปกติ จนเวลาประมาณ 4 ทุ่ม พลอยก็ปิดไฟนอน
จนกระทั่งรุ่งเช้า เมื่อพลอยตื่นขึ้นมา เธอก็ต้องตกใจสุดขีด พลอยพบว่า ตอนนี้ตัวเองกำลังนอนอยู่บนพื้น ในซากบ้านที่ปรักหักพัง ทั้งที่เธอจำได้ว่า เมื่อคืนนี้นอนอยู่ที่บ้านพักในบังกะโลแท้ๆ แถมพวกเสื้อผ้า ที่จำได้ว่าเอาใส่ตู้แขวนไว้ ตอนนี้มันกองอยู่ที่พื้นอย่างไม่เป็นระเบียบ และเมื่อเปิดดูห้องน้ำ พลอยก็พบว่า แปรงสีฟัน สบู่ ยาสระผม ยังตั้งอยู่ตำแหน่งเมื่อคืน เพียงแต่ตอนนี้ ห้องน้ำนั้นกลายสภาพเป็นห้องน้ำเก่าๆ โทรมๆ ราวกับว่าไม่ได้ใช้งานมานานมากแล้ว
พลอยอกสั่นขวัญแขวนเป็นอย่างมาก เธอรีบเก็บของเข้ากระเป๋า ก่อนจะพยายามมุดต้นไม้ ที่ขึ้นคลุมซากบ้านออกมาอย่างยากเย็น
เมื่อได้ออกมาข้างนอก พลอยก็ต้องช็อคหนักกว่าเดิมเพราะตอนนี้ เธอกำลังอยู่ท่ามกลางป่ากระถิน ที่มีซากสิ่งก่อสร้างตั้งกระจัดกระจายไปทั่ว แต่เธอจำได้ว่า ซากบ้านที่เห็นกระจัดกระจายอยู่ตอนนี้ มันคือบ้านพักรอบๆ ที่เธอเห็นเมื่อวานนั่นเอง พลอยทำอะไรไม่ถูก ได้แต่พยายามลุยหญ้า ฝ่าดงกระถิน ออกมาให้เร็วที่สุด จนมาถึงตึก 2 ชั้น ที่เธอจำได้ว่า คือสำนักงานของบังกะโลนั่นเอง แต่ตอนนี้ มันมีสภาพเป็นตึกพังๆ มีต้นไม้ปกคลุม รกไปหมด ดูจากสภาพแล้ว คงจะไม่มีใครมาใช้งานนานมากแล้ว
พลอยพยายามเดินลุยออกมาให้เร็วที่สุด ตราบจนกระทั่งถึงทางเดิน ที่เธอจำได้ว่า ใช้เดินเข้าบังกะโลมานั่นเอง
เมื่อเดินมาถึงปากซอย พลอยก็ได้พบกับลุงคนหนึ่ง ที่กำลังเก็บของเก่าอยู่ และลุงเองก็หันมาเห็นพลอยเช่นนั้น
“อ้าว หนู เข้าไปทำอะไรในป่าน่ะ โดนใครฉุดมาหรือเปล่า” นี่คือประโยคแรกที่ลุงเอ่ยทักทายพลอย
“เปล่าค่ะ หนูมาพักในบังกะโล ที่อยู่ในซอยนี้” พลอยตอบออกไป ลุงทำหน้างง พร้อมกับตอบว่า “ซอยนี้ไม่มีบังกะโลนะหนู จริงๆ เคยมีนั่นแหละ แต่เขาเลิกไปแล้ว”
คำตอบของลุง ทำให้พลอยยิ่งอกสั่งขวัญแขวนหนักกว่าเดิม เธอเลยตัดสินใจ เล่าเรื่องที่เจอมาให้ลุงฟัง พอลุงฟังเสร็จ เขาทำท่าตกใจมาก แล้วก็เล่าว่า เมื่อก่อน เคยมีนักธุรกิจมาเปิดบังกะโลในซอยนี้ แล้วเขาเล่ากันว่า ที่บริเวณนี้แรง มักจะมีแขกเจอกับอะไรบางอย่างอยู่บ่อยๆ จนกิจการบังกะโลแห่งนี้ซบเซาเรื่อยมา และเมื่อเกิดเหตุการณ์พิษเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง เจ้าของบังกะโลล้มละลาย แล้วก็ฆ่าตัวตายไป บังกะโลก็เลยถูกทิ้งร้างมาจนถึงเดี๋ยวนี้
หลังจากวันนั้น พลอยตัดสินใจเดินทางกลับบ้านทันที และสัญญากับตัวเองว่า ต่อไป จะจองโรงแรมไว้ ก่อนมาเที่ยวทุกครั้ง เพื่อจะได้ไม่ต้องเจอกับเหตุการณ์สุดสะพรึงแบบนี้อีก