ภาพ : thairath.co.th
ถ้าจะพูดถึงข่าวที่เป็นกระแสในโลกออนไลน์ขณะนี้ ข่าวหนึ่งที่ได้รับความสนใจกันเป็นอย่างมากในขณะนี้ คือ ข่าวที่บัณฑิตสาวมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศเกาหลีใต้กับเพื่อน ๆ แล้วเกิดช็อคหมดสติ กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ค่ารักษาพยาบาลแพงมาก เพื่อน ๆ เร่งประสานญาติเพื่อขอความช่วยเหลือให้นำตัวกลับมารักษาที่ประเทศไทย
ข่าวนี้เริ่มจากเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2560 ผู้สื่อข่าวในจังหวัดกาฬสินธุ์ได้รับการประสานจากนายทองอ่อน หนองโสดา อดีตกำนัน ต.หนองแวง อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อเรียกร้องขอความช่วยเหลือผ่านสื่อโดยระบุว่า น.ส.ระภีภรณ์ นาสะอ้าน หรือน้องมิน อายุ 25 ปี ผู้เป็นหลานสาวช็อก หมดสติ กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเพื่อน ๆ ของหลานสาวได้ประสานมายัง ศูนย์ดำรงธรรมประเทศไทย เพื่อให้ติดต่อญาติ ขอความช่วยเหลือ เพราะป่วยหนักและยังหาสาเหตุไม่พบ ค่ารักษาพยาบาลที่มีราคาสูงและเพื่อน ๆ ต้องเดินทางกลับมาไทยก่อน
เมื่อชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ทราบข่าวก็ได้เร่งให้ความช่วยเหลือ โดยนายอำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ได้มอบเงิน 5,000 บาทแก่ครอบครัว เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ส่วนประชาชนก็ช่วยกันลงขันบริจาคเงินช่วยเหลือครอบครัวน้องมิน
น้องมินมีกำหนดเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศเกาหลีใต้ระหว่างวันที่ 20 – 24 มีนาคม 2560 แต่ในคืนวันที่ 23 มีนาคม น้องมินเกิดเป็นลมและได้เรียกรถพยาบาลมา แต่มีปัญหาคือหัวใจหยุดเต้น สามารถใช้เครื่องปั้มหัวใจขึ้นมาได้ แต่ใช้เวลาถึง 20 นาที ซึ่งทางการแพทย์ถือว่านานมาก และตอนนี้หัวใจกลับมาเต้นปรกติแล้ว แต่อาการยังไม่ดีนัก ยังคงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และมีอาการของปอดอักเสบแทรกซ้อน กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ซึ่งคุณแม่และคุณพ่อเตรียมตัวบินไปหาลูกสาว เวลาประมาณ 01:00 น. ของวันที่ 28 มีนาคม 2560 คุณแม่ได้เข้าไปขอประวัติการรักษาตัวของน้องมิน ที่โรงพยาบาลศิริราชเพื่อนำให้ที่โรงพยาบาลเซเวอร์เร่น ส่วนอาการล่าสุดน้องมิน หัวใจยังเต้นช้า ยังไม่รู้สึกตัว ทั้งนี้ได้รับการประสานความช่วยเหลือ ทั้งจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล และเจ้าหน้าที่ของเกาหลีใต้ ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่าเจ้าหน้าที่กงสุลไทยประจำกรุงโซลได้เข้าเยี่ยมน้องมิน ที่โรงพยาบาลพบว่าขณะนี้น้องมินยังไม่รู้สึกตัวและยังต้องรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู เบื้องต้นค่ารักษา คืนละ 200,000 บาทนั้น ทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล ได้สำรองจ่ายไปก่อนและเมื่อคุณแม่คุณพ่อน้องมินเดินทางมาถึงจะต้องเซ็นสัญญารับสภาพหนี้และใช้คืนในภายหลัง
เรื่องนี้จึงเป็นอุทาหรณ์ว่า หากมีแผนจะไปท่องเที่ยวต่างประเทศก็ควรจะซื้อประกันสุขภาพสำหรับการเดินทาง เผื่อให้อุ่นใจว่ามีค่ารักษาพยาบาล หากเกิดเหตุฉุกเฉินเช่นนี้