มาอีกแล้วเรื่องของภาษีที่รัฐจะจัดเก็บใหม่ภายใต้แผนปฏิรูปโครงสร้างภาษีและระบบบริหารจัดเก็บ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ของแผ่นดินที่มีการผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ไปก่อนหน้านี้ และหนึ่งในแผนของการจัดเก็บภาษีที่ว่าก็คือ กฎหมายภาษีการได้รับประโยชน์จากการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ ชื่อยาวมาก เอาเป็นว่าชื่อเล่นของภาษีตัวใหม่นี้ เขาเรียกกันสั้น ๆ ว่า “ภาษีลาภลอย” นั่นเอง
ภาพ : http://www.thansettakij.com/content/155384
ก่อนหน้านี้เป็นที่รู้กันดีว่า เมื่อโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐบาลไปลงในพื้นที่ใดก็ตาม ทำเลพื้นที่ตรงนั้นจะกลายเป็นทำเลทองขึ้นมาทันที ราคาที่ดินจะพุ่งสูงเป็นเท่าหรือหลายเท่าทีเดียว ทั้งที่ดินที่มีรถไฟฟ้าผ่าน รถไฟรางคู่ผ่าน สนามบินใหม่ ท่าเรือใหม่ หรือตัดถนนใหม่ จนเจ้าของที่ดินกลายเป็นเศรษฐีใหม่กันไปตาม ๆ กัน รวมไปถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ผู้พัฒนาบ้านจัดสรรหรือคอนโดมิเนียมที่ได้รับประโยชน์จากมูลค่าที่เพิ่มขึ้นจากโครงการคมนาคมของรัฐบาลไปไม่ใช่น้อย
ดังนั้นต่อจากนี้ไปที่ดินหรือคอนโดที่ใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์มีมูลค่ามากกว่า 50 ล้านบาท หลังจากมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ในรัศมีรอบ 2.5 กิโลเมตรของโครงการรถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ ทางด่วนพิเศษ และที่ดิน 5 กิโลเมตรโดยรอบโครงการท่าเรือ และสนามบินจะเข้าข่ายต้องเสียภาษีลาภลอยที่ว่านี้ด้วย โดยในเบื้องต้นได้กำหนดเพดานอัตราภาษีไว้สูงสุดที่ 5% ของราคาส่วนต่างที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากโครงการของรัฐบาล ขณะนี้กฎหมายภาษีลาภลอยยังอยู่ในขั้นตอนของการเปิดประชาพิจารณ์รับฟังข้อดีข้อเสีย ก่อนเสนอรัฐบาลเพื่อผ่านความเห็นชอบและเสนอตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ฟังรายละเอียดเบื้องต้นแล้วก็ต้องถอนหายใจยาวแบบโล่งอก เพราะไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับประชาชนคนไทยตาดำ ๆ เท่าไหร่นัก ไม่เหมือนกับภาษีมูลค่าเพิ่มหรือภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่หากจะเปลี่ยนแปลงอะไรทีก็ต้องเงี่ยหูฟังให้ดี อย่าให้ตกข่าว แต่จะเกี่ยวกับเจ้าของที่ดินทำเลทองที่ถือเป็นคนรวยกลุ่มน้อยในประเทศไทยเรา ดังนั้นเพื่อความเป็นธรรม เก็บไปเถอะค่ะ เห็นด้วย เพราะว่าเจ้าของที่ดินเหล่านี้ได้รับผลประโยชน์จากโครงการของรัฐไปแบบเต็ม ๆ จ่ายภาษีแค่ 5% ของส่วนต่างมูลค่าที่เพิ่มขึ้นเท่านั้นเอง แล้วจริง ๆ เมื่อมีการประกาศใช้ก็ยังไม่รู้ว่าจะเก็บที่เท่าไหร่ อาจไม่ถึง 5% ก็ได้
ภาพ : https://www.matichon.co.th/news/569994
ที่สำคัญภาษีลักษณะแบบนี้ หากเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เป็นพวกนักการเมืองด้วยกัน ก็อาจยากหน่อยที่จะผ่านความเห็นชอบไปได้ ก็ต้องอาศัยรัฐบาลทหารที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องแบบนี้เข้ามาจัดการ ถึงจะได้บังคับใช้ทำให้จัดเก็บภาษีรายได้ที่เป็นธรรมได้จริง ๆ เงินภาษีที่เก็บได้จะได้ไปช่วยแบ่งเบาภาระของโครงการที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่อีกหลายโครงการที่รออยู่ข้างหน้า