เรื่องราวของ “DEATH NOTE” สมุดบันทึกมรณะที่มีพลังอำนาจในการสามารถปลิดชีวิตทุกคนที่ถูกเขียนชื่อลงในสมุดเล่มนี้ ได้ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ เกม ซึ่งล้วนแต่ได้รับความนิยมและกล่าวขวัญถึงความสยดสยองจากพลังอำนาจของเจ้า Death Note เรียกได้ว่าไม่เฉพาะแต่คนญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศต้นกำเนิด แต่ยังกระจายความสยองขวัญไปทั่วโลก แต่กระนั้นเมื่อไม่นานมานี้มีข่าวว่าครูระดับประถมศึกษาคนหนึ่ง ได้ใช้วิธีการกระตุ้นนักเรียนให้ตั้งใจเรียนหนังสือ ด้วยการขู่เด็กที่ไม่กระตือรือร้นว่าจะเขียนชื่อลงในสมุด Death Note ซึ่งส่งผลให้นักเรียนต่างหวาดกลัวไปตาม ๆ กัน ร้อนถึงผู้ปกครองและกระทรวงศึกษาธิการญี่ปุ่นต้องรีบแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน เรื่องราวแปลกนี้จะเป็นอย่างไรเชิญติดตามได้เลยครับ
เรื่องราวข่าวสุดแปลกของครูผู้ใช้กลวิธีอันสุดแสนพิสดารในการกระตุ้นนักเรียนนี้ เปิดเผยขึ้นที่โรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น แดนอาทิตย์อุทัย เมื่อครูหนุ่มวัย 30 ปี คนหนึ่งได้พยายามหาวิธีกระตุ้นให้นักเรียนที่เรียนช้ากลับมากระตือรือร้นและสนใจเรียนมากขึ้น และแล้วก็คิดไอเดียสุดบรรเจิดเลิศล้ำคือการขู่นักเรียนที่เรียนอ่อนว่า ถ้าใครผลการเรียนไม่ดีขึ้น ครูจะเขียนชื่อของเธอลงใน DEATH NOTE เพียงเท่านั้นแหละครับ
ปรากฏว่านักเรียนประถมต่างหวาดผวากันใหญ่ เพราะกลัวว่าครูจะเขียนชื่อตนเองลงใน DEATH NOTE จริง ๆ แต่แทนที่ผลการเรียนจะดีขึ้น กลับสร้างความวิตกกังวลและความเครียดให้กับนักเรียนไปเสียอย่างนั้น บางคนถึงกับกินไม่ได้ นอนไม่หลับ เพราะกลัวว่าจะมีชื่อของคนเองในสมุดมรณะ DEATH NOTE นักเรียนคนหนึ่งกล่าวว่าครูได้ขู่ว่าตอนนี้มีรายชื่อนักเรียน 4 คนที่อยู่ในเกณฑ์จะถูกเขียนชื่อลงในสมุดมรณะแล้ว ทำให้เกิดความกลัวเป็นอย่างมาก
เรื่องราวนี้เดือดร้อนถึงผู้ปกครองที่ต้องทนเห็นลูก ๆ พากันเครียดไม่ไหว พากันร้องเรียนไปที่โรงเรียนและกระทรวงศึกษาธิการของญี่ปุ่น จนกลายเป็นเรื่องบานปลายมากกว่าข่าวฮือฮาครึกโครม บัดนั้นทางกระทรวงศึกษาธิการและโรงเรียนจึงไม่ได้นิ่งนอนในทำการเรียกคุณครูท่านนั้นมาสอบสวนทันทีก่อนที่ทุกอย่างจะบานปลายไปมากกว่านี้ และสุดท้ายก็จบลงด้วยดีด้วยการเชิญทั้งครูผู้สถาปนาตัวเองเป็นแอลและผู้ปกครองมาทำความเข้าใจ ซึ่งครูก็ยอมรับผิดที่ใช้วิธีการนี้กับนักเรียนที่ยังไม่มีวุฒิภาวะมากพอในการแยกแยะสิ่งต่าง ๆ
เฮ้อ..จะว่าไปคุณครูเขาก็มีเจตนาดีนะครับที่อยากให้นักเรียนตั้งใจเรียน แต่มันผิดวิธีและหลักการไปหน่อยเท่านั้นเอง ยังมีวิธีการอีกมากมายที่จะช่วยกระตุ้นให้เด็ก ๆ ตั้งใจเรียนครับ ก็เป็นข่าวแปลก ๆ จากแดนปลาดิบที่นำมาฝากกันในวันนี้ครับผม