ภาษาอังกฤษมีหลักการใช้ที่แตกต่างจากภาษาอื่นก็คือเรื่องของ tense นี่เอง เขาว่านี่เองเป็นที่มาที่พวกฝรั่งจะรักษาเวลามาก ไม่แน่ใจว่าจริงหรือไม่อย่างไร แต่ที่รู้ ๆ ก็คือ tense ในภาษาอังกฤษนั้นมีมากถึง 12 tenses ด้วยกัน คนที่เรียนภาษาอังกฤษพอมาเจอเรื่อง tense จะบอกว่ามึนมาก! ที่ใช้บ่อย ๆ 2-3 tenses ก็จำได้อยู่ แต่ที่เหลือนี่สิ ทั้งไม่รู้เรื่องและไม่เข้าใจ วันนี้แหละค่ะที่เราจะมาบอกเทคนิคช่วยให้เข้าใจเรื่อง tense แบบง่าย ๆ กัน เอาแค่ 9 tenses ที่เราใช้กันบ่อย ๆ
Simple Tense (ปกติ)
- Present Simple Tense เช่น I go to school every day. ใช้กับเหตุการณ์ในปัจจุบันหรือสิ่งที่ทำเป็นปกติ เป็นประจำ มักมีคำบอกเวลา เช่น usually, always, every year, every day
- Past Simple Tense เช่น I went to school yesterday. ใช้กับเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านไปแล้ว เกิดขึ้นและจบสิ้นไปแล้ว มักมีคำบอกเวลา เช่น yesterday, ago, last night
- Future Simple Tense เช่น I will go to school tomorrow. ใช้กับเหตุการณ์ในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง ยังไม่เกิดขึ้น มักมีคำบอกเวลา เช่น tomorrow, next year, next month
Continuous Tense (กำลังดำเนินอยู่ ณ เวลาใด เวลาหนึ่ง)
- Present Continuous Tense เช่น I am going to school now. ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบันในขณะที่กำลังพูด มักมีคำบอกเวลา เช่น now, at this time, at this moment
- Past Continuous Tense เช่น I was going to school at this moment yesterday. ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ ณ ขณะใดขณะหนึ่ง ในอดีตจะมีช่วงเวลาบอกที่แน่นอนว่าเกิดขึ้นและจบลงเมื่อไหร่
- Future Continuous Tense เช่น I will be going to school at this time yesterday. ใช้กับเหตุการณ์ที่จะกำลังดำเนินอยู่ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคต รู้เวลาที่แน่นอน
Perfect Tense (สมบูรณ์)
- Present Perfect Tense เช่น I have studied here since 2015. หรือ I have been here for 5 years. ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต ดำเนินมาจนถึงปัจจุบันและจะดำเนินต่อไปในอนาคต มักมีคำว่า since กับ for อยู่ในประโยค
- Past Perfect Tense ไม่นิยมใช้ tense นี้ในประโยคเดี่ยว ๆ แต่นิยมใช้คู่กับ Past Simple Tense กับเหตุการณ์ที่จบลงไปก่อนสิ้นสุดไป ก่อนที่จะเกิดอีกเหตุการณ์ขึ้นมา แต่ทุกเหตุการณ์ก็ได้ผ่านพ้นไปแล้ว เช่น The train has left when we got to the station. รถไฟออกไปแล้วตอนที่เราไปถึงสถานี
- Future Perfect Tense เช่น Tomorrow morning, I will have finished all my work. ใช้กับเหตุการณ์ที่จะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ในอนาคต หรือใช้คู่กับประโยค Present Simple Tense ก็ได้ เช่น I will not have been there when you arrive. ฉันคงจะไม่อยู่ที่นั่นตอนคุณมาถึง
ถ้าเราจัดระเบียบ tense ให้เป็นหมวดหมู่ก็จะทำให้เข้าใจง่ายขึ้น จากนั้นให้ทำความเข้าใจว่าแต่ละ tense บอกเหตุการณ์ในลักษณะไหน ในประโยคมักมีคำอะไรที่เป็นเงื่อนเวลาเหมือนกับจะบอกใบ้ให้เรารู้ อ่านข่าวหรือบทความภาษาอังกฤษบ่อย ๆ ก็จะได้เจอประโยคที่หลากหลาย เพียงเท่านี้เรื่อง tense ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปค่ะ
บทความฝึกภาษาอังกฤษอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
แสดงความเป็นเจ้าของอย่างไรในประโยคภาษาอังกฤษ
เทคนิคช่วยให้เข้าใจเรื่อง TENSE แบบง่าย ๆ
EVERYONE กับ EVERY ONE ใช้เหมือนหรือต่างกันอย่างไร
ความแตกต่างระหว่าง HOME กับ HOUSE
เมื่อไหร่ควรใช้ DO เมื่อไหร่ควรใช้ MAKE
เทคนิคการฝึกภาษาอังกฤษในทุกเวลาว่าง
การถามแบบย่อ ๆ กับ QUESTION TAGS
VERB TO BE คืออะไรและควรใช้อย่างไร
3 คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกิดใหม่ในยุคดิจิตอลที่ไม่ควรพลาด
TALL กับ HIGH 2 คำศัพท์อังกฤษที่ใช้ต่างกันนะ รู้ยัง
2 คำศัพท์ภาษาอังกฤษ เขียนผิด ชีวิตเปลี่ยน
3 ความต่างของคำศัพท์เกี่ยวกับ “ครู” ในภาษาอังกฤษที่ควรรู้และใช้ให้ถูกต้อง
การออกเสียงภาษาอังกฤษอย่างถูกต้อง
การใช้ I THINK SO และ I HOPE SO
การใช้ BY และ UNTIL BY THE TIME
BY THE WAY และ ANY WAY ใช้ต่างกันอย่างไร
คำที่บอกความรู้สึก ในภาษาอังกฤษ
เรียนรู้ภาษาอังกฤษจากข่าวราชประสงค์
ความแตกต่างของคำ INTRODUCE, SUGGEST, RECOMMEND และ ADVISE
ADJECTIVE ที่ลงท้ายด้วย –ED และ – ING น่ารู้
เข้าใจกันใหม่ก่อนนะ ระหว่าง HARD กับ HARDLY
SORRY กับ APOLOGIZE ก็เสียใจเหมือนกัน จริงหรือ
NO และ NOT คุณคิดว่าเหมือนกันไหม
MOON มีความหมายมากกว่าพระจันทร์นะ รู้ยัง