นอกจากผิวพรรณ, รูปร่างและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ กับกระดูกแล้ว สมองเป็นคลังควบคุมการทำงานทุกส่วนประสาทของร่างกายที่สำคัญ แต่น้อยคนนักที่จะให้การดูแลเอาใจใส่และบำรุงสมองของตนให้สามารถทำงานได้อย่างอัจฉริยะ คุณหนูดี วนิษา เรซ ผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาด้านอัจฉริยภาพเพียงคนเดียวในไทยที่จบปริญญาโทเกียรตินิยมด้านวิทยาการทางสมองจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เธอได้เผยสูตรสำเร็จในการบำรุงสมองไวทั้ง 9 ข้อ ซึ่งสามารถทำตามได้ง่าย ๆ ดังนี้
- เติมน้ำให้สมองบ่อย ๆ ช่วยป้องกันเซลล์สมองทำงานช้า: โดยธรรมชาติ สมองของคนเราจะประกอบไปด้วยน้ำประมาณ 85% ซึ่งสมองก็ไม่ต่างจากต้นไม้ที่ต้องการน้ำมาหล่อเลี้ยง หากขาดน้ำ ต้นไม้ก็มีแต่จะเหี่ยวเฉา สมองของคนเราก็เช่นกัน หากคุณมักจะคิดอะไรไม่ค่อยออก หรือคิดช้า นั่นอาจเป็นเพราะสมองขาดน้ำและทำให้การส่งข้อมูลทำงานได้ช้าลง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง เราจึงควรดื่มน้ำบ่อย ๆ เป็นประจำทุกวัน
- เลือกกินไขมันจากน้ำมันปลาและสารสกัดใบแปะก๊วยช่วยซ่อมแซมสมองที่สึกหรอ: ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องการดูแลรูปร่างภายนอกให้ดูดี และเลือกไม่บริโภคไขมันทุกชนิด ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงสมองของเราก็คือก้อนไขมันที่ต้องการไขมันดีเข้าไปทดแทนส่วนที่สึกหรอ ดังนั้นการกินอาหารประเภทน้ำมันปลา, วิตามินรวม, ปลาไขมันดีอย่างปลาแซลมอน, สารสกัดใบแปะก๊วย, น้ำมันพริมโรสและนมถั่วเหลือง จะเป็นการเติมความชุ่มน้ำให้กับสมองได้เป็นอย่างดี แบบเดียวกับที่ผิวของคุณต้องการครีมบำรุงให้ความชุ่มชื้น สมองก็เช่นกัน
- ผ่อนคลายสมองด้วยการนั่งสมาธิอย่างน้อย 12 นาที: คลื่น Theta ไม่เพียงเป็นคลื่นที่ผ่อนคลายสุด ๆ เท่านั้น แต่ยังช่วยกระตุ้นให้สมองมีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ซึ่งจะทำงานได้ดีเมื่อเรานั่งสมาธิอย่างน้อยวันละ 12 นาทีจะเป็นตอนเช้าหลังตื่นนอนหรือก่อนเข้านอนก็ได้ทั้งนั้น
- เพิ่มความตั้งใจในกิจกรรมระหว่างวัน กระตุ้นการทำงานของสมองได้เป็นอย่างดี: เมื่อเราตั้งใจทำกิจกรรมใด ๆ ก็ตาม สมองของเราก็จะทำงานและปรับพฤติกรรมให้ทำงานชิ้นนั้น ๆ ให้สำเร็จให้ได้ ความตั้งใจของคนเราจึงเป็นการผสานสิ่งที่คิดและสิ่งที่ทำให้เป็นหนึ่งเดียวกันนั่นเอง
- ยาอายุวัฒนะที่ดีคือรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ: สารเอ็นโดรฟิน หรือ สารแห่งความสุขจะหลั่งออกมาตามธรรมชาติเมื่อคนเรายิ้มและหัวเราะ จึงเป็นการบำรุงสมองที่ดีและยังได้ส่งมอบความสุขให้กับผู้อื่นอีกด้วย
- ปลดปล่อยสารเอ็นโดรฟินและโดปามีนผ่านการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ: ขณะที่เราเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ไม่ว่าจะอ่านหนังสือเล่มใหม่, รู้จักเพื่อนใหม่หรือทำงานแบบใหม่ ๆ สมองจะหลั่งสารเอ็นโดฟินและโดปามีนออกมา ซึ่งจะทำหน้าที่กระตุ้นสมองให้คิดไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ จึงไม่แปลกที่มหาเศรษฐีระดับโลกอย่างบิล เกตส์ก็มักจะใช้เวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมงในการอ่านหนังสือใหม่ ๆ เสมอ และผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยเอสเสกยังบอกด้วยว่าการอ่านหนังสือวันละ 6 นาทีจะช่วยลดระดับความเครียดได้ถึงร้อยละ 68 เลยทีเดียว
- ลดภาระสมองด้วยการเริ่มต้นให้อภัยตัวเอง: การเรียนรู้ข้อผิดพลาดเป็นบทเรียนที่ดี เอดิสันยังใช้เวลาในการทดลองหลอดไฟจากวัสดุกว่า 1 หมื่นชนิดจนกว่าจะสำเร็จ แต่เขาไม่ท้อและมักคิดว่าเขากำลังเข้าใกล้ความสำเร็จแล้วต่างหาก การให้อภัยตัวเองจึงเป็นการเริ่มต้นลดภาระสมองและให้สมองได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- หมั่นขอบคุณเรื่องดี ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน: การเขียนเรื่องดี ๆ จะกระตุ้นให้สมองคิดเชิงบวกและหลั่งสารช่วยให้เราเกิดความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้นหากคุณอยากพัฒนาสมองทุก ๆ วันก็ควรเริ่มต้นเขียนขอบคุณเรื่องราวดี ๆ รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวดี เพื่อนดี อาหารดี อากาศดี และลมดี ๆ ที่ช่วยให้เราสดชื่นในแต่ละวัน
- สูดออกซิเจนให้ได้ 20 – 25% ทุกวันด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ: พลังงานที่ดีของสมองคือออกซิเจน ดังนั้นการสูดลมหายใจลึก ๆ ในขณะนั่งหลังตรง หรือระหว่างเดินยึดเส้นยืดสายจะช่วยให้ปอดขยายใหญ่และสามารถรับเอาออกชิเจนเข้าปอดได้เพิ่มขึ้นราว ๆ 20% เพราะสมองที่ดีก็จะทำให้คุณภาพชีวิตของเราดีไปด้วย
นอกจากสูตรสำเร็จในการบำรุงสมองทั้ง 9 ข้อแล้ว การบริโภคอาหารว่างอย่างธัญพืชต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดทานตะวัน, เมล็ดฟักทอง หรือผลไม้อบแห้งอย่างกล้วยตากและส้มแขกก็จัดเป็นเมนูเสริมพลังสมองที่ไม่ควรมองข้าม เพราะพลังงานจากอาหารกลุ่มนี้จะค่อย ๆ ถูกสมองดูดซึมไปใช้งานอย่างช้า ๆ ซึ่งคุณหนูดีเองก็มักจะมีติดบ้านไว้เสมอ แล้วเราจะรออะไร จริงไหม