ใกล้สิ้นสุดฤดูร้อนและสายฝนพร่ำเริ่มแวะมาทักทายบ้างเป็นช่วง ๆ ข่าวงูเลื้อยเข้าบ้านก็จะได้ยินกันบ่อยขึ้น งูกลัวอะไร เพื่อป้องกันงูไม่ให้เข้ามาในที่พักอาศัยตามความเชื่อโบราณว่าไว้ให้หาเชือกกล้วยหรือมะนาวมากันงู แต่เมื่อได้สอบถามกับทางสัตวแพทย์ด้านงูกลับพบว่าทั้งเชือกกล้วยและมะนาว ไม่มีสารเคมีหรือกลิ่นอะไรที่งูกลัวเลยสักนิด ไม่ว่าจะเป็นต้นกล้วยหรือต้นมะนาว งูก็สามารถเลื้อยขึ้นไปได้หน้าตาเฉยเหมือนกันทั้งนั้น แล้วมีวิธีอะไรบ้างที่เราสามารถนำมาใช้ป้องกันงูไม่ให้เข้ามาภายในบ้านได้
- กำจัดแหล่งอาหารที่เชื้อเชิญงูมากินบุฟเฟ่ต์: งูมักจะเลือกเข้ามาอาศัยในบ้านที่มีแหล่งอาหารสำหรับเขา ซึ่งก็คือกบ, เขียด, ตุ๊กแกและหนู หากว่าปล่อยให้บ้านมีสัตว์เหล่านี้อาศัยอยู่ก็เหมือนเราเปิดร้านบุฟเฟ่ต์เชื้อเชิญงูให้เขามากินได้อย่างสบายใจ ดังนั้นเพื่อป้องกันงูเข้าบ้าน จึงต้องหมั่นทำความสะอาดและกำจัดแหล่งอาหารของเขาให้หมดไปจากบริเวณบ้านนั่นเอง
- ปิดแหล่งที่อาศัยของงูให้หมด: งูมักชอบอาศัยทำรังและวางไข่ตามพุ่มไม้รก ๆ, ตอไม้ผุ, โพรงใต้บ้านและพงหญ้า ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้งูเข้ามาเช็คอินอยู่ในบริเวณบ้านก็ควรตัดหญ้าทิ้ง หรือถ้ามีท่อระบายน้ำก็ควรหาตะแกรงมาติดกั้นไว้ ซึ่งจะช่วยป้องกันงูไม่ให้ใช้เส้นทางในบริเวณบ้านของคุณได้
- หาสัตว์เลี้ยงมาเป็นตัวช่วยไล่งูให้พ้นบริเวณบ้าน: สัตว์เลี้ยงไม่เพียงเป็นเพื่อนที่ดีและช่วยคลายเหงาให้คุณได้เท่านั้น แต่เขายังสามารถช่วยไล่สัตว์รบกวนอย่างงูให้พ้นบ้านได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นสุนัข, แมว, พังพอนหรือ ห่าน ต่างก็มีเสียงดังและประสาทรับกลิ่นที่ไว พวกเขาจะสามารถใช้สัญชาตญาณจับกลิ่นของสัตว์อื่นที่เป็นอันตราย อย่างเช่น สุนัขหากเขาเห็นงูก็จะทั้งเห่าและไล่กัดงูอย่างไม่ลดละ จนกว่างูจะออกพ้นตัวบ้าน สัตว์เลี้ยงจึงเป็นบอดี้การ์ดที่คอยส่งสัญญาณเตือนได้เป็นอย่างดี
- โรยกำมะถันหรือพ่นน้ำมันก๊าดป้องกันงู: นอกจากนี้ ในบริเวณที่เสี่ยงว่าจะมีงูเลื้อยผ่านมาภายในที่พักอาศัย ก็สามารถนำกำมะถันผสมน้ำให้เข้ากัน และค่อยนำไปราดตามขอบรั้ว, ประตูทางเข้าบ้าน, พงหญ้าและช่องระบายน้ำ เมื่องูได้กลิ่นกำมะถันก็จะไม่เข้าใกล้บริเวณนั้น หรือไม่ก็อาจจะใช้น้ำมันก๊าดซึ่งมีกลิ่นฉุนพ่นตามบริเวณดังกล่าวให้ทั่ว ๆ แต่หากใช้วิธีนี้ก็ต้องระมัดระวังอย่าใช้น้ำมันก๊าดใกล้ปลั๊กไฟหรือเปลวไฟเด็ดขาด เพราะจะกลายเป็นเชื้อเพลิงได้ทันที
- ซื้อตาข่ายหรือแผ่นกันงูมาติดป้องกัน: เพื่อความสบายใจของผู้พักอาศัย การนำตาข่ายไนล่อนหรือตาข่ายดักนกมาขึงไว้ให้รอบรั้วบ้านก็เป็นอีกหนึ่งการป้องกันที่ดี ซึ่งเมื่องูเลื้อยมาติดตาข่ายไนล่อนก็อย่าเพิ่งไปจับเอง แต่ควรเรียกหน่วยกู้ภัยที่มีความชำนาญมาช่วยจะดีกว่า หรือไม่ก็อาจจะซื้อแผ่นกันงูที่มีวางจำหน่ายในร้านขายของญี่ปุ่นราคาไม่กี่ร้อยบาทเท่านั้น เมื่องูเลื้อยมาติดแผ่นกันงู ซึ่งลื่นกว่าเขาก็จะเลื้อยไปไหนต่อไม่ได้ และหล่นตกไปเอง
อย่างไรก็ดี หากเจอะกับงูเข้าอย่างจัง ขอให้ใช้สติ อย่าวิ่งหนีแต่ให้ยืนนิ่ง ๆ แทน เพราะงูไม่มีหู เขาจึงไม่ได้ยินเสียงอะไร แต่จะสัมผัสได้หากเราเคลื่อนไหว หากยืนนิ่ง ๆ งูจะไปเองตามธรรมชาติของเขา เว้นแต่ว่าเจ้างูที่เราเจอตัวนั้นเป็นงูเขียวหางไหม้หรืองูกะปะที่ใช้ร่องระหว่างตาและจมูกจับความร้อน ก็ควรตั้งสติและค่อย ๆ ก้าวถอยออกมาให้พ้นระยะอันตราย นอกจากนี้ หากพบเห็นงูเมื่อไหร่ ให้รีบกันเด็ก, คนชราและสัตว์เลี้ยงออกจากบริเวณดังกล่าว พร้อม ๆ กับจับสังเกตการเคลื่อนไหวของงูว่าไปทางไหน อยู่ตรงไหนระหว่างรอเจ้าหน้าที่มูลนิธิ, อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนที่สำนักงานเขต หรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยจับงูออกจากที่พักอาศัย