สภาพอากาศในช่วงซัมเมอร์นี้ หลายคนมักจะนึกถึงการดูแลใส่ใจผิวกายและผิวหน้าให้ไกลแดดเท่านั้นก็เพียงพอ แต่จริง ๆ แล้ว เรายังต้องรักษาสุขภาพร่างกายให้ห่างไกลจากโรคที่มาพร้อมอุณหภูมิสูงและอากาศร้อนอบอ้าวที่ไม่เพียงจะพาให้เหนียวตัวเท่านั้น แต่ยังเป็นสาเหตุของโรคผิวหนัง, โรคทางเดินอาหารและทำให้ร่างกายช็อคได้อีกด้วย ซึ่งการรู้ทันโรคที่ต้องระวัง จึงเท่ากับเป็นการเตรียมรับมือฤดูร้อนนี้ได้เป็นอย่างดี
- โรคฮีตสโตรก หรืออาการลมแดด: สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลุยกิจกรรมกลางแจ้งระหว่างวันเป็นประจำ สภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว อาจทำให้อุณหภูมิในร่างกายขึ้นสูงถึง 40 องศาเซสเซียลได้ง่าย ๆ ไม่ว่าคุณจะออกกำลังกายบ่อยครั้งหรือสุขภาพแข็งแรงขนาดไหนก็ตาม เมื่อร่างกายของเราสูญเสียน้ำและเหงื่อออกมาก ๆ เป็นเวลานาน ร่างกายก็จะปรับตัวไม่ทัน ทำให้กระหายน้ำ, ปวดศีรษะ, เบื่ออาหาร, คลื่นไส้, เวียนหัวและอาจจะหน้ามืดได้ ดังนั้นหากต้องอยู่กลางแดดนาน ๆ ต้องหมั่นดื่มน้ำเปล่าบ่อย ๆ และสวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เพื่อจะได้ช่วยลดความเสี่ยงอาการเป็นลมแดดได้บ้าง
- โรคผิวหนัง อาการผดผื่นคันและผิวไหม้แดด: โดยปกติ เมื่อผิวหนังอับชื้นจากเหงื่อและแสบผิวจากแสงแดดแรงจัด ก็มักจะเกิดเป็นผด ผื่น หรือคล้ำเสียได้ง่าย ๆ นอกจากการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปเพื่อกันผิวไหม้แดดแล้ว ยังต้องเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่คับหรือหนามากเกินไปด้วยควบคู่ไปกับการมาส์กผิวด้วยแตงกวา, น้ำนมหรือใบชา ซึ่งจะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวได้เป็นอย่างดี
- โรคท้องเสีย ท้องเดิน จากอาการอาหารเป็นพิษ: สภาพอากาศที่ร้อนและแห้งย่อมเอื้อให้เชื้อแบคทีเรียสามารถเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้อาหารบูดและเสียได้ง่ายมากขึ้นกว่าปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมนูอาหารที่ปรุงไม่สุกดีอย่างลาบ, ก้อยดิบ, พล่ากุ้ง, กุ้งแช่น้ำปลา, ขนมจีน, ยำหอยแครง, ส้มตำ, อาหารที่มีกะทิเป็นส่วนประกอบ, ข้าวมันไก่, ข้าวผัดที่ใส่เนื้อปูและน้ำแข็งที่ผลิตไม่ได้มาตรฐาน ทั้งนี้ หากซื้ออาหารกล่องก็ควรแยกกับข้าวและข้าวออกจากกัน และควรกินอาหารภายใน 2 – 3 ชั่วโมงหลังจากปรุงเรียบร้อยแล้ว ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคท้องร่วงและอาหารเป็นพิษได้
ที่สำคัญ ในช่วงสภาพอากาศร้อนนี้ ต้องระวังอย่าเข้าใกล้สุนัขและแมวจรจัด หรือหากพลาดถูกสัตว์เหล่านี้ข่วนหรือกัดเข้าที่ร่างกายก็ต้องรีบไปพบแพทย์และฉีดยาป้องกันพิษสุนัขบ้าไว้ก่อน เพราะในน้ำลายของสัตว์อาจมีเชื้อไวรัสเรบี ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตได้ นอกจากนี้ หากมีสัตว์เลี้ยงในความดูแลก็ควรพาไปฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าแต่เนิ่น ๆ
ที่มารูปประกอบ: everydayhealth.com