เป็นข่าวให้ได้ยินได้ฟังกันบ่อย ๆ เรื่องของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ คราวนี้มาอีกแล้วโดยเหตุเกิดที่อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เรื่องมีอยู่ว่ามีหญิงสาว อายุ 40 ปี ชื่อ น.ส. พรพัชรดิษย์ รักความสุข ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.บางละมุง เรื่องที่มีคนโทรเข้ามาหลอกลวงว่าเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอและเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ โดยติดต่อเข้ามาบอกว่าตัวเองมีส่วนพัวพันกับคดียาเสพติด
ภาพ : http://www.posttoday.com/local/east/498212
รายละเอียดคร่าว ๆ ก็คือมีคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์โทรติดต่อเข้ามาก่อน บอกว่ามีพัสดุจ่าหน้าถึงคน ๆ หนึ่งแต่ไม่มีผู้รับถึง 2 ครั้ง จึงส่งพัสดุนั้นไปตรวจสอบที่ดีเอสไอ ผลปรากฏว่าภายในมีสมุดบัญชี 30 เล่ม และบัตรเอทีเอ็ม หนึ่งในสมุดบัญชีเหล่านี้ระบุว่าเจ้าของบัญชีคือชื่อของตน
หลังจากวางสายไปได้แค่ไม่กี่นาที ก็มีคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอติดต่อเข้ามาชี้แจงว่าเหตุที่พัสดุดังกล่าวไม่มีผู้รับ ก็เนื่องจากคน ๆ นั้นติดคุกจากคดียาเสพติดอยู่ พร้อมกับบอกว่าชื่อของตนอาจถูกนำไปปลอมแปลงเพื่อเปิดบัญชีดังกล่าว และได้ทำทีสอบถามว่าปัจจุบันมีบัญชีธนาคารอะไรอยู่บ้าง มียอดเงินเท่าไหร่ มีเจ้าหน้าที่แบงก์ชาติติดต่อมาเพื่ออายัดบัญชีหรือไม่ สุดท้ายบอกว่าจะติดต่อกลับมาอีกครั้ง
น.ส.พรพัชรดิษย์ รู้สึกแปลก ๆ จึงได้ลองตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อเข้ามา ก็พบว่าเป็นเบอร์ของไปรษณีย์และสำนักงานดีเอสไอจริง แต่เมื่อไปปรึกษากับญาติก็พบว่ามีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเป็นอยู่ เมื่อไม่แน่ใจแบบนี้จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจทันที
นี่ไม่ใช่เป็นกรณีแรกของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งต้มตุ๋นหลอกลวง ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวให้ได้ยินได้ฟังกันมาตลอด ลักษณะการหลอกลวงของมิจฉาชีพเหล่านี้ที่ติดต่อมาก็เปลี่ยนรูปแบบไปเรื่อย ๆ ตอนนี้มาถึงหลอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอแล้ว ครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่เหยื่อไหวตัวทันเข้าแจ้งความไว้ก่อน จึงยังไม่เกิดความสูญเสียขึ้น ก่อนหน้านี้ที่เป็นข่าวเหยื่อส่วนใหญ่มักหลงเชื่อจนต้องสูญเสียเงินทองไปเป็นจำนวนมาก บางรายสูญเงินหลายล้านบาทก็มี
ภาพ : https://www.thairath.co.th/content/968720
ที่เหยื่อตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์แล้วพบว่าเป็นเบอร์โทรของไปรษณีย์และสำนักงานดีเอสไอจริงนั้น ก็เป็นเพราะมิจฉาชีพสมัยนี้สามารถใช้โทรศัพท์ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ VOIP แล้วทำการแปลงสัญญาณดิจิตอลเพื่ออำพรางเลขหมายโดยให้แสดงเป็นหมายเลขใดก็ได้ที่ต้องการ ดังนั้นหากเจอเหตุการณ์แบบนี้แล้วตรวจสอบกลับว่าเป็นเบอร์ตามที่ผู้ติดต่อมาบอกไว้ก็ยังไม่ควรหลงเชื่อเด็ดขาด ถ้าเรามั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายหรือไม่ได้ดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติด หากเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้ก็ควรต้องตั้งสติให้ดี ไม่ควรให้ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีธนาคารหรือข้อมูลส่วนตัวใด ๆ ของเราอย่างเด็ดขาด ควรแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทางเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจหาเบาะแสต่อไป แก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างไรจะต้องทำการหลอกลวงเหยื่อหลายรายไม่ใช่เราคนเดียวแน่นอน การแจ้งความจะเป็นการช่วยให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นง่ายขึ้นด้วย