การแข่งขันฟุตบอลนัดชิงแชมป์แห่งทวีปอเมริกาใต้หรือศึกโคปา ลิเบอร์ตาดอเรส ระหว่างทีมริเวอร์เพลท กับทีมโบคา จูเนียร์ส เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ถือได้ว่าเป็นฟุตบอลนัดประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 127 ปีของวงการฟุตบอลประเทศอาร์เจนตินาแต่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้
การแข่งขันของทีมฟุตบอลคู่นี้ถือเป็นศึกใหญ่แห่งวงการฟุตบอลโลกประจำปีนี้ และเมื่อผลการชิงชนะเลิศในนัดแรกออกมาเสมอกัน 2-2 โดยมีเหตุแฟนบอลยั่วเย้าต่อกัน
เหตุการณ์นี้ถือเป็นอีกครั้งหนึ่งของศึกโคปา ลิเบอร์ตาดอเรส ที่ได้รับความสนใจจากแฟนบอลทั่วโลก เพราะเป็นศึกของ 2 ทีมคู่อริกันที่ต้องมาต่อสู้กันในสนามเพื่อจะคว้าถ้วยแชมป์ฟุตบอลแห่งทวีปอเมริกาใต้มาครอบครองเป็นของทีมตนให้ได้อีกครั้ง แต่สิ่งที่คุณเห็นคือการแข่งขันเป็นเหมือนละครดราม่าที่มีประเด็นต้องพูดถึงแห่งปีก็ว่าได้ นั่นคือ ศึกนัดชิงโคปา ลิเบอร์ตาดอเรส ถูกเลื่อนออกไปเป็นครั้งที่ 2 แล้ว และยังไม่มีกำหนดแข่ง
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ 2 ชั่วโมงก่อนเกมการแข่งขันจะเริ่มต้น เมื่อรถบัสของทีมโบคา จูเนียร์ มุ่งหน้าไปยังสนามโมนูเมนทัล แต่โดนแฟนบอลทีมริเวอร์เพลทขว้างปาของใส่จนทำให้ตัวรถบัสได้รับความเสียหายอย่างหนัก นักเตะของทีมได้รับบาดเจ็บทั้งจากเศษกระจกและแก๊สน้ำตา จากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ปาโบล เปเรซ กัปตันทีมโบคา จูเนียร์ และ กอนซาโล ลามาร์ด ถูกเศษกระจกบาดตา ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที
กอนซาโล ลามาร์ด ผู้เล่นของทีมทีมโบคา จูเนียร์ ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากโดนแฟนบอลทีมริเวอร์เพลทขว้างปารถบัสของทีม
สมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ หรือ CONMEBOL ได้ยืนยันว่า การแข่งขันศึกโคปา ลิเบอร์ตาดอเรส รอบชิงชนะเลิศนัดที่ 2 ระหว่างทีม ริเวอร์เพลท และ โบคา จูเนียร์ส ต้องเลื่อนการแข่งขันไปอย่างไม่มีกำหนด หลังจากที่เลื่อนการแข่งขันจากเดิมมาแล้ว 1 วัน เนื่องจากเหตุการณ์แฟนบอลทีม ริเวอร์เพลทรุมทำร้ายรถบัสโบคา จูเนียร์ ส่งผลให้มีนักฟุตบอลได้รับบาดเจ็บหลายคน
ครั้งแรกในรอบ 58 ปีของศึกฟุตบอลโคปา ลิเบอร์ตาดอเรส ที่ 2 ทีมคู่อริของอาร์เจนติน่าได้มาพบกันในรอบชิงชนะเลิศ
สมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้จึงตัดสินใจเลื่อนการแข่งขันมา 1 วัน เป็นวันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน แต่ล่าสุดจากการประท้วงของนักเตะของทีมโบคา จูเนียร์ถึงความไม่ยุติธรรมที่นักเตะบางส่วได้รับบาดเจ็บ จึงตัดสินใจประกาศเลื่อนการแข่งขันไปอย่างไม่มีกำหนด และจะจัดการประชุมกันภายในวันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน ถึงสถานที่แข่งขันและวันเวลาที่จะแข่งขันต่อไป
อเลฮานโดร โดมิงเกซ ประธานสมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ ออกมาแถลงการณ์ว่า
“นี่ไม่ใช่ฟุตบอล นี่ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ นี่ไม่ใช่อาร์เจนตินาที่เรารัก เรารู้ว่านี่ไม่ใช่สังคมส่วนใหญ่ของอาร์เจนตินา พวกเขาเหล่านี้เป็นพวกผิดปกติ เราต้องใช้โอกาสนี้แสดงให้โลกเห็นว่าเราสามารถบริหารจัดการสิ่งเหล่านี้ได้”
ถือเป็น 36 ชั่วโมงแห่งความน่าอับอายในรอบสัปดาห์ที่เป็นประวัติศาสตร์ของวางการฟุตบอลประเทศอาร์เจนตินาและวงการฟุตบอลโลกที่ไม่อยากไม่ได้เกิดขึ้น