15 เมษายน
“วันนี้วันสุดท้ายแล้วนะโว้
ย ไปเล่นน้ำกันเดี๋ยวตัวแห้ง”
วันนี้วันสงกรานต์สุดท้ายปร
ะจำปี พวกเราทุกคนต่างก็เตรียมตัว
เมาและมันส์กันอย่างเต็มที่
เพราะอีก 2 วันก็ทำงานแล้ว ตลอดทั้งวันเราเล่นน้ำกันอย
่างเมาและมันส์ จนตกเย็น พวกเรากลับบ้าน ก็เป็นเวลาที่ดึกพอสมควร ตอนนี้พวกเราเมาเกือบลืมทาง
กลับบ้านไปด้วยซ้ำ จนเข้ามาในหมู่บ้าน ตรงปากทางเข้าจะมียามเฝ้าอย
ู่ แต่วันนี
้ยามไม่อยู่ อาจเพราะกลับบ้านหยุดสงกรานต์ ก็ได้“ช่วยด้วย ช่วยด้วย” เราได้ยินเสียงผู้หญิงร้องข
อความช่วยเหลือจากป่าปากทาง
เข้าหมู่บ้าน ก็ตัดสินใจรีบเข้าไปดู ก็พบว่ายามกำลังพยายามที่จะ
ขมขืนผู้หญิง เป็นยาม 2 คนผู้หญิง 1 พวกเราพยายามเข้าช่วยเหลือ แต่พวกเราพลาด เพราะเมามาก ไอ้ต้อมโดนยามใช้มีดแทงนอนแ
น่นิ่งอยู่บริเวณนั้น ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นวิ่งหาย
เข้าไปในหมู่บ้าน ส่วนยามก็วิ่งหนีหายไปเช่นก
ัน เพราะพยายามโทรหาตำรวจ ไม่นานนักตำรวจก็มา พร้อมกับผู้หญิงในหมู่บ้านท
ี่ออกมาพร้อมกับคนในครอบครั
ว และมาชี้ที่พวกเรากล่าวหาว่
าพวกเราเป็นคนทำ
จากคนดีกลายเป็นคนเหี้ยในทันที พวกเราถูกกล่าวหาว่าเป็นคนทำร้ายผู้หญิงคนนี้ และเธอก็บอกว่าพวกเราทะเลาะกันเองแล้วทำร้ายกันเองด้วย ตอนนี้เรื่องราวกลายเป็นกลับตาลปัด ผม(มิตร) และหนึ่ง โดนจับ ส่วนตอนนี้ต้อมถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล สุดท้ายต้อมก็สิ้นใจตายเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว
พวกเราไม่มีหลักฐานใดๆ ที่จะต่อสู้เลย เราพยายามอธิบายทุกอย่างแต่ดูว่าจะไม่เป็นผล ในขณะที่พวกเรากำลังทุกข์ใจอยู่ในห้องขัง ต้อมก็ปรากฏตัวขึ้นแล้วพูดกับพวกเราว่า “กูจะจัดการเอง พวกมึงไม่ต้องห่วง กูรักพวกมึง” พวกเราร้องไห้เพราะสาเหตุใดไม่รู้ ได้แต่หวังว่าไอต้อมต้องช่วยเราให้พ้นผิดแน่
18 เมษายน
พวกเราถูกปล่อยตัวออกมาและทางตำรวจบอกว่า ผู้หญิงกลับคำให้การและยามที่พยายามทำร้ายผู้หญิงออกมายอมรับผิด สิ่งที่พวกเราเห็นคือ ท่าทางของผู้หญิงที่มาให้ปากคำดูลนลานมาก และยามทั้ง 2 ก็ดูเหมือนจะกลัวและระวังทุกอย่างแบบจิตตก ผมรีบปรีเข้าไปชกยามทั้ง 2 และพยายามที่จะทำร้ายผู้หญิงคนที่กล่าวหาเราด้วย แต่ก็โดนตำรวจห้ามไว้ ฝ่ายแม่ของผู้หญิง รีบบอกว่าจะชดเชยค่าเสียหายให้กับพวกเราเป็นจำนวนเงิน 20,000.- และกราบขอโทษพวกเราอย่างเสียไม่ได้ ตอนนี้ผมและหนึ่งคิดในใจว่า ต้องบวชให้ต้อม ในจังหวะที่พวกเรากำลังหัวเสียและโมโหอย่างที่สุด เราสองคนได้ยินเสียงพร้อมกันว่า “มึงไม่ต้องบวชให้กูหรอก มึงบวชให้ ไอ้ 3 ตัวนี้ดีกว่า บุญกูเยอะแล้ว” เราสองคนมองหน้ากันและพูดคุยกันต่างก็ได้ยินเหมือนกัน คิดในใจว่า “ต้อม ถ้ามึงบอกแบบนี้กูจะทำให้”
19 เมษายน เวลา 06.00 น.
มีข่าวออกทีวีบอกว่า “ยามที่ถูกจับได้เรื่องคดีขมขืน ได้ใช้เชือกรองเท้าผูกคอตายในห้องขังทั้ง 2 คน และ หญิงสาวที่ถูกข่มชืนก็ผูกคอตายที่บ้านด้วยเช่นกัน พวกเราไม่ตกใจ เพียงแต่คิดในใจว่า บางครั้งคนดีที่ถูกใส่ร้าย ก็ทนไม่ไหวที่จะทำดีต่อไป ขนาดตายไปแล้วก็ยังรักและเป็นห่วงเพื่อน โลกนี้ไม่มีความยุติธรรม แต่กรรมมีความยุติธรรมเสมอ 20,000.- เก็บไว้ทำศพเถอะป้า เดี๋ยวพวกผมจะบวชให้ หนึ่งวันตามคำร้องขอจากต้อม “ต้อมขอบคุณเพื่อนมาก ชาติหน้าเกิดเป็นพี่น้องกับพวกกูนะ กูจะรอ”