การรับปริญญา คงจะเป็นสิ่งหนึ่ง ที่เป็นเกียรติเป็นศรีต่อตัวเองและวงศ์ตระกูลของนักศึกษาคนนั้นๆ เพราะฉะนั้น กิจกรรมนี้ จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ใครหลายคนทุ่มเทมาก จนกระทั่งกลายเป็นการผูกจิตเข้าสิ่งสิ่งนั้น และนำมาซี่งเหตุการณ์ลี้ลับ สุดสยอง ที่จะเล่าต่อไปนี้
เรื่องนี้ เกิดขึ้นกับมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ใกล้รับปริญญาเต็มทนแล้ว หลายๆ คณะ ต่างก็พากันฝึกซ้อมกันอย่างหนัก ว่าที่บัณฑิตแต่ละคนต่างก็มีความตื่นเต้นกันมิใช่น้อย ซึ่งนั่นก็รวมถึง เต้ ที่กำลังจะได้เป็นบัณฑิตอยู่รอมร่อแล้ว
เต้นั่งนับวันรอแทบทุกวัน ว่าเมื่อไรตนจะได้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรสักที จนเพื่อนสนิทหลายคนต่างพากันล้อว่า เต้บ้าไปแล้ว แต่เขาก็ไม่สนใจ เนื่องจาก ณ ตอนนี้ เขาสนใจกิจกรรมการรับปริญญา ที่กำลังจะเกิดขึ้นมากกว่า
จนกระทั่งก่อนถึงวันรับปริญญาเพียงวันเดียว เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น วันนั้น เต้มีธุระจำเป็นที่ต้องไปกับครอบครัว โดยพ่อเป็นคนขับรถ เต้นั่งข้างพ่อ ละแม่นั่งหลัง ขณะที่รถกำลังจะออกจากซอย จู่ๆ ก็มีรถตู้อีกคันหนึ่ง ซึ่งขับมาด้วยความเร็วสูง โผล่มาตัดหน้ารถของครอบครัวเต้กะทันหัน จนทำให้พ่อต้องหักพวงมาลัยหลบ รถจึงเกิดการเสียหลักพุ่งลงไปข้างทาง เบียดกับต้นจามจุรีเต็มเหนี่ยว จนประตูรถด้านซ้ายหลุดเลยทีเดียว จากรูปการ ก็ดูเหมือนว่า คนในรถน่าจะไม่เป็นอันตรายมาก เพราะแค่เบียดเท่านั้น ทว่า มันคงจะเป็นคราวถึงฆาตของเต้ เพราะเขากระเด็นออกจากตัวรถ ขึ้นไปติดบนต้นจามจุรี อาการสาหัส ในขณะที่พ่อกับแม่ ที่ยังติดอยู่ในรถ มีแค่รอยฟกช้ำดำเขียวเล็กน้อยเท่านั้น
เต้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้ๆ ทันที หมอสามารถช่วยชีวิตเขา จนชีพจรเต้นขึ้นมาได้ แต่เน่าองจากอาการสาหัสมาก ส่งผลให้เขาหมดลมไปในคืนเดียวกันนั้นเอง พ่อกับแม่ของเต้ ร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด โดยเฉพาะพ่อที่เอาแต่โทษตัวเอง ว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ลูกชายของตนต้องตาย ทั้งๆ ที่วันรุ่งขึ้น เต้กำลังจะได้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรอยู่แล้วแท้ๆ
อุบัติเหตุดังกล่าวเป็นเรื่องที่น่าสลดใจ แต่มันก็เป็นต้นเหตุของเหตุการณ์แปลกๆ ในวันรุ่งขึ้นด้วยเช่นกัน เริ่มจากเพื่อนคนหนึ่งของเต้ ที่ได้รับรู้เหตุการณ์การเสียชีวิตของเต้ เขาได้ฝันว่า เต้มาหาในสภาพเลือดท่วมตัว มีรอยฟกช้ำเต็มไปหมด แต่เต้กลับมีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม พร้อมกับบอกว่า พรุ่งนี้เราก็จะได้เข้ารับปริญญากันแล้วนะ ในฝัน เพื่อนคนนั้นขนลุกเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้พูดออกไป ว่า มึงตายไปแล้ว จะมารับปริญญาได้ยังไง จากนั้น เต้จากที่ยิ้มอยู่ ก็หุบยิ้มทันที แล้วตะโกนมาว่า กูยังไม่ตาย กูยังไม่ตาย ซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งเพื่อนคนนั้นสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
และในวันรุ่งขึ้น ซึ่งเป็นวันพระราชทานปริญญาบัตร ก่อนที่จะเข้าพิธี ก็ต้องมีการรายงานตัว โดยเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่เป็นผู้รับรายงานตัว ได้เห็นว่า เต้ ที่เพิ่งตายไปเมื่อคืน มารายงานตัวเป็นคนแรก แถมยังเซ็นชื่อในใบรายงานตัวอย่างเรียบร้อย โดยเจ้าหน้าที่คนนั้นไม่รู้เลยว่า เต้เพิ่งจะเสียชีวิตไปเมื่อคืนนี้ เมื่อนักศึกษารู้ ต่างก็พากันอกสั่นขวัญแขวนกันไปตามๆ กัน ยิ่งเจ้าหน้าที่คนนั้น พอรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว แทบเป็นลมไปเลยทีเดียว
หลังจากนั้น พิธีพระราชทานปริญญาบัตร ก็ดำเนินไปตามปกติ ตราบจนกระทั่งเสร็จพิธีไป จนกระทั่งอีกหลายวันต่อมา เมื่อทางมหาวิทยาลัยได้นัดให้มารับรูปถ่ายตอนรับปริญญา ทุกคนก็มากัน และต่างคน ต่างก็ได้รูปกันไปตามปกติ ทีนี้เรื่องน่าขนลุกมันมาเกิดขึ้น ตรงที่ มีรูปของเต้ตอนกำลังรับปริญญาอยู่ด้วย ทั้งๆ ที่เต้ได้ตายไปก่อนหน้าการรับปริญญา จึงไม่มีทางที่จะเป็นไปได้เลย แถมในรูปหมู่บัณฑิต ก็ยังปรากฏเต้อยู่ในภาพด้วย ทั้งๆ ที่คนที่อยู่ใกล้ตำแหน่งของเต้ในภาพ ยืนยันว่าบริเวณนั้นเป็นพื้นที่ว่างเปล่า ไม่มีใครยืนอยู่เลย แล้วเต้มาได้อย่างไรกันล่ะ กลายเป็นเรื่องน่าขนลุกที่โจษขานกันไปทั่วมหาวิทยาลัยในตอนนั้น ทุกวันนี้ ยังมีบัณฑิตบางคน ที่ยังคงมีรูปหมู่ดังกล่าวเก็บไว้อยู่
เรื่องทั้งหมดที่เล่ามานี้ อาจจะไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว สยองสยองอะไรมากนัก แต่ก็นับว่าเป็นเรื่องน่าขนลุก และเป็นเรื่องแปลก ที่ทุกวันนี้ ก็ยังไม่มีใครสามารถหาคำตอบได้ ว่าในเมื่อเต้ตายไปแล้วตั้งแต่ก่อนวันรับปริญญา แล้วใครกันล่ะ ที่มารายงานตัว มาเข้ารับปริญญา แถมยังไปปรากฏในรูปถ่ายอีก ถ้าหากความฝันของเพื่อนเต้เป็นจริงแล้วละก็ ก็น่าจะเชื่อได้ว่า เต้ คงจะยังมีห่วงอยู่กับการรับปริญญา และไม่อยากให้การเรียนตลอด 4 ปีที่ผ่านมาของตนต้องเสียเปล่าอย่างแน่นอน จึงได้มาปรากฏตัวในงานรับปริญญาเช่นนั้น