หลายคนที่ถามผมมาว่าการเทรด Forex นั้นควรเริ่มต้นยังไง ผมมักจะบอกเสมอว่าวิธีที่ง่ายที่สุดคือให้เทรดตามแนวโน้มเป็นหลักและอินดิเคเตอร์ที่ใช้ ต้องมีอยู่แล้วในโปรแกรม mt4 ไม่ซับซ้อน มีความเรียบง่าย ไม่จำเป็นที่จะต้องไปค้นหาระบบเทรดขั้นเทพที่ไหนหรือหาซื้อระบบเทรดแพง ๆ ตามที่โฆษณาในเว็บไซต์เพราะที่สุดแล้วหลักการใช้งานก็ไม่ได้แตกต่างกับ indicator พื้นฐานที่มีอยู่และหากได้ทำความเข้าใจพร้อมกับผ่านการใช้งานอย่างช่ำชองแล้วอาจจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าระบบเทรดที่ขายกันในราคาแพงนั้นเสียอีก จากประสบการณ์พอจะสรุปเทคนิคที่ใช้พิจารณาในการสร้างระบบเทรด Forex ขั้นพื้นฐาน ดังนี้
- สามารถบอกแนวโน้มเราได้อย่างชัดเจนว่ากราฟราคากำลังอยู่ในแนวโน้มลักษณะใดซึ่งข้อนี้เป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะหากเราเทรดใน Time Frame เล็กการดูแนวโน้มจะต้องใช้ Time Frame ที่มีขนาดใหญ่มาเป็นตัวกำหนด เนื่องจากกราฟใน Time Frame เล็กผมมองว่ามีความผันผวนสูงการมีแนวโน้มใหญ่คอยกำกับจึงเหมือนเป็นการเตือนให้เราไม่ทวนกระแสน้ำ
จากภาพด้านบนเป็นตัวอย่างของการใช้อินดิเคเตอร์ง่าย ๆ เพื่อให้เห็นแนวโน้มของกราฟได้อย่างชัดเจนโดยใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 เพียงเส้นเดียวในการแยกนั่นก็คือเมื่อราคาอยู่ใต้เส้นสีแดงหมายถึงกราฟมีแนวโน้มขาลงและเมื่อราคาอยู่เหนือเส้นสีแดงหมายถึงกราฟมีแนวโน้มขาขึ้น ทีนี้เราก็จะมองออกแล้วว่าเราควรจะทำยังไงต่อไป เช่น เมื่อกราฟมีแนวโน้มขาขึ้นก็ให้รอสัญญาณ Buy อย่างเดียวส่วนหากกราฟมีแนวโน้มขาลงก็ให้รอสัญญาณ Sell อย่างเดียว เป็นต้น
- สามารถบอกจังหวะการเข้าออเดอร์ได้อย่างชัดเจนเพราะเป็นตัวกำหนดว่าเราจะสามารถทำกำไรได้ระยะที่ดีหรือไม่ ในตลาดมี 2 คำที่เรามักได้ยินอยู่เสมอนั่นก็คือการติดดอยหรือการติดเหว เพราะการเข้าออเดอร์เมื่อแนวโน้มอ่อนตัวลง
จากภาพด้านบนเป็นตัวอย่างของการใช้อินดิเคเตอร์ MACD ค่ามาตรฐานในการหาจุดเปิด Order โดยที่เมื่อแท่งสีฟ้าตัดเส้นสีแดงลงมาและอยู่ใต้เส้น Zero Line ให้ทำการ SELL กลับกันเมื่อแท่งสีฟ้าตัดเส้นสีแดงขึ้นไปและอยู่เหนือเส้น Zero Line ให้ทำการ BUY เป็นต้น เท่านี้เราก็สามารถหาจุดเข้าทำกำไรดีๆจากแนวโน้มได้อย่างต่อเนื่อง ประเด็นสำคัญก็คือการรอคอยให้เกิดสัญญาณที่ชัดเจนก่อนบางคนเกิดอาการคันมือหรือใจร้อนเข้าก่อนสัญญาณ ถ้าถูกทางตามที่เราคาดหมายไว้ก็ดีไป แต่ถ้าเกิดผิดทางและไม่มีจุดขาดทุนอาจถึงขั้นล้างพอร์ตหมดโอกาสแก้ตัวกันเลยทีเดียว
- สามารถบอกราคาเป้าหมาย (TP) และจุดตัดขาดทุน (SL) ได้ คือตัวกำหนดว่าเราควรจะทำกำไรได้ถึงเท่าไหร่และสามารถรับความเสี่ยงกรณีที่กราฟผิดทางได้เท่าไหร่ หากจะอธิบายให้ลึกลงไปอีกสักนิด บนฐานที่ว่าไม่มีระบบเทรดไหนที่ได้กำไรทุกครั้ง ดังนั้นเราอาจจะพบกับภาวะกำไรหรือภาวะขาดทุนแต่โดยรวมแล้ว หักลบกลบหนี้เมื่อเวลาผ่านไป 1 เดือน ก็ยังมีกำไรอยู่ เป็นการฝึกยอมรับธรรมชาติที่ตลาดจ่ายผลตอบแทนให้เราได้เท่าไหนก็เอาเท่านั้นเพื่อจำกัดความโลภ
จากภาพด้านบนเป็นตัวอย่างของการใช้อินดิเคเตอร์ Zigzag ที่มีอยู่ในโปรแกรม mt4 ในการหาราคาเป้าหมายและจุดตัดขาดทุน โดยเมื่อเราเข้า BUY ที่เส้นประสีเขียวเราไม่แน่ใจว่าราคาจะขึ้นไปถึงตรงไหน จึงใช้ราคาในอดีตที่เป็นแนวต้านเดิมในการกำหนดเป้าหมายและใช้จุดต่ำสุดเดิมก่อนเข้าออเดอร์เป็นจุด SL ซึ่ง indicator ดังกล่าวจะทำให้เรามองเห็นภาพการสวิงตัวของกราฟราคาได้อย่างชัดเจน ง่ายต่อการทำเส้นอ้างอิง
- หากจะหวังผลในระยะยาวการตั้งระยะกำไรและขาดทุนมักจะตั้งกันที่อัตรา 1:1 หรือ 1:2 เช่น ถ้าเราตั้งจุดขาดทุนที่ 20 จุดอย่างน้อยการตั้งราคาเป้าหมายก็จะต้องเท่ากับจุดขาดทุนนั่นก็คือ 20 จุด ถ้าเป็นไปได้ควรตั้งไว้ที่ 2 เท่านั้นก็คือ 40 จุด ทีนี้มาดูกันว่าการตั้งอัตรา1:2 มีผลอย่างไร ยกตัวอย่างให้เห็นภาพระบบเทรดระบบหนึ่ง มีเปอร์เซ็นต์ชนะอยู่ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน
ใน 100 ครั้งเขาเทรดชนะเพียง 40 ครั้งรายการชนะใน 1 ครั้งเขาทำกำไรได้ 40 จุดแต่พอผิดทางเขาจะขาดทุนเพียงแค่ 20 จุด
40 x 40 = 1,600
60 x 20 = 1,200
จากตัวอย่างดังกล่าวระบบที่มีเปอร์เซ็นต์ชนะแค่ 40 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือนก็สามารถทำกำไรได้ ลองนึกภาพถ้าเราพัฒนาระบบเทรดของเราให้มีเปอร์เซ็นต์ในการชนะที่สูงขึ้นและยั่งยืนก็ยิ่งจะสร้างความมั่นคงทางรายได้ให้เกิดขึ้นอย่างไม่รู้จบได้ในตลาดนี
หากเป็นผู้ที่ชื่นชอบการเทรดกราฟเชิงเทคนิคจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการศึกษาอินดิเคเตอร์ที่อยู่ในโปรแกรม mt4 อย่างละเอียดเพราะยิ่งเรามีความเข้าใจอินดิเคเตอร์ต่าง ๆ มากเท่าไหร่ย่อมสามารถรู้จุดแข็งและจุดอ่อนของอินดิเคเตอร์นั้น ๆ เป็นประโยชน์ในการออกแบบระบบเทรดที่เหมาะสมกับตัวเราในอนาคต เพราะในตลาด Forex หากเรามีกลยุทธ์ที่หลากหลายย่อมสามารถกระจายความเสี่ยงและรับมือกับความผันผวนนั้นได้ดีขึ้น
——
สั่งทำได้เลย บทความพร้อมรูปเพื่อโพสลงเว็บไซต์
ห้างหุ้นส่วนจํากัด มีดี ครีเอทีฟ สเตชั่น
WEBSITE : www.1000content.com
TEL : 09-1998-1997
LINE : @1000support