โบท็อกซ์ (Botox) คืออะไร
โบท็อกซ์ หรือ Botulinum toxin type A (โบทูลินัม ท็อกซิน เอ) เป็นชื่อทางการค้าจากอเมริกา นำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาในการลดริ้วรอย เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอย่างสูงในแวดวงเสริมความงามที่คนเรียกกันติดปากว่า โบท็อกซ์ .. โบท็อกซ์คือโปรตีนที่ได้มาจากการสกัดจากแบคทีเรียชื่อว่า Clostridium Botulinum (คลอสตริเดียม โบทูลินัม) ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทโดยตรง ซึ่งเชื้อชนิดนี้หากได้รับในปริมาณที่มากเกินไปจะส่งผลให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ แต่หากได้รับในปริมาณน้อยหรือพอเหมาะภายใต้การดูแลของแพทย์จะช่วยในเรื่องของการคลายตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดอ่อนแรงชั่วระยะเวลาหนึ่ง ทำให้ริ้วรอย หรือรอยเหี่ยวย่นเลือนหายไป
เดิมโบท็อกซ์ถูกนำมาใช้ในวงการแพทย์ด้วยการนำมารักษากล้ามเนื้อกระตุก ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อตา กล้ามเนื้อคอ รวมไปถึงรักษาอาการตาเหล่ และปวดไมเกรน จนกระทั่งในปี 2002 ทาง FDA ของสหรัฐอเมริกาได้มีการรับรองให้ใช้โบท็อกซ์ในการลดริ้วรอย รอยตีนกา หน้าผาก จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการนำโบท็อกซ์มาใช้ในวงการความสวยความงามนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
โบท็อกซ์ (Botox) ทำงานอย่างไร
เมื่อฉีดโบท็อกซ์เข้าไปแล้ว โปรตีนดังกล่าวจะไปออกฤทธิ์ที่มัดกล้ามเนื้อ โดยการเข้าไปจับกับปลายประสาท ทำให้เซลล์ประสาทหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อ ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นเกิดการคลายตัว เพราะปลายประสาทบริเวณนั้นจะถูกโปรตีนจับ ทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อลดลงเป็นการชั่วคราว เมื่อกล้ามเนื้อไม่หดและเกรงตัวแล้ว ริ้วรอยที่เกิดขึ้นก็จะลดลง หน้ากระชับและอ่อนเยาว์มากขึ้น
โบท็อกซ์ (Botox) ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง
นอกจากโบท็อกซ์จะช่วยเรื่องของการลดริ้วรอยแล้ว ยังมีข้อดีอีกหลายด้านที่เป็นเหตุผลให้คนนิยมฉีดโบท็อกซ์กันอย่างแพร่หลายทั้งเพศหญิงและเพศชาย มาดูกันว่าโบท็อกซ์สามารถช่วยในเรื่องใดบ้าง
- ช่วยลดริ้วรอย ปัญหาที่หลายคนแก้ไม่ตก
เพราะเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ริ้วรอยก็จะตามมาเหมือนเงาตามตัว ยิ่งคนที่มักแสดงสีหน้าตามอารมณ์บ่อย ๆ หรือแม้แต่การที่ทำงานเคร่งเครียดจนคิ้ว 2 ข้าง ขมวดชนกันอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะแก้ด้วยวิธีใดมาก็ไม่มีทางหายขาด ปัญหาแบบนี้โบท็อกซ์ช่วยได้ แต่ต้องเป็นการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพราะหลังจากฉีดไประยะหนึ่งโปรตีนนั้นก็จะสลายไป ริ้วรอยก็จะกลับมาอีกครั้ง
- ช่วยให้ผิวเรียบเนียน เพราะโบท็อกซ์ช่วยให้รูขุมขนเล็กลง ต่อมไขมันก็ลดขนาดลง ส่งผลให้หน้ากระชับ เป็นการช่วยฟื้นฟูผิวได้อีกทางหนึ่งด้วย
- ช่วยให้กรอบหน้าเล็ก เรียว กระชับ สำหรับคนที่กล้ามใหญ่ หรือบางคนไม่ได้ต้องการให้รูปหน้าเดิมเปลี่ยนไปมาก แต่อยากให้หน้ามีความเรียว เล็ก กระชับ เข้ารูป ฉีดโบท็อกซ์ช่วยได้
- ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อขาและน่อง ทำให้น่องเล็ก เรียว สวย
- ช่วยลดเหงื่อ ในภาวะที่มีเหงื่อออกมากผิดปกติ แก้ไขได้โดยการฉีดเข้าใต้วงแขนหรือรักแร้ ช่วยลดเหงื่อ ทำให้เหงื่อออกน้อยลง ช่วยระงับกลิ่นกายได้ในตัว
- ช่วยรักษาอาการปวดศีรษะจากความเครียด หรือการปวดศีรษะแบบไมเกรน โดยฉีดโบท็อกซ์เข้าไปช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ช่วยระงับความปวดให้น้อยลง
- รักษากล้ามเนื้อหลังอักเสบเรื้อรัง
- ช่วยรักษาภาวะที่เกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อที่มากกว่าปกติ เช่น กล้ามเนื้อคอกระตุกหรือเกร็ง ตาเข เป็นต้น
โบท็อกซ์ (Botox) เหมาะกับใคร
โบท็อกซ์เหมาะกับทุกคนที่ต้องการแก้ปัญหาตามที่ได้กล่าวมาข้างต้นทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ยกเว้นบุคคลเหล่านี้
- หญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรือผู้ที่อยู่ระหว่างการให้นมบุตร เนื่องจากยังไม่มีงานวิจัยที่เพียงพอมารองรับว่าปลอดภัย ดังนั้นเพื่อสุขภาพของคุณแม่และคุณลูกควรเลี่ยงหรือเว้นช่วงไปก่อนจนกว่าจะหยุดให้นมลูก
- ผู้ที่มีความผิดปกติของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ เพราะอาจส่งผลให้อาการแย่ลง
- ผู้ที่แพ้สาร Botulinum (โบทูลินัม)
- ผู้ที่เป็นโรคฮีโมฟีเลีย (Hemophilia) หรือโรคเลือดออกง่ายหยุดยาก
เลือกโบท็อกซ์แบบไหนให้เหมาะกับผิว
โบท็อกซ์ปัจจุบันมีหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีคุณสมบัติเด่น ๆ ที่ต่างกัน ก่อนจะเลือกว่าจะฉีดโบท็อกซ์แบบไหน ยี่ห้ออะไร มาศึกษากันก่อนว่าแต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
- HUGEL Botulinum Toxin Type A จากเกาหลี
จุดเด่นคือ ราคาเบา เข้าถึงง่าย เหมาะสำหรับกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น น่อง กราม เป็นต้น ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือน มีค่าการกระจายตัวที่ค่อนข้างแม่นยำเกือบเท่ากับยี่ห้อของอเมริกา อาจมีความเสี่ยงในการดื้อโบบ้าง
- ABO Active เป็นยี่ห้อจาก UK
จุดเด่นคือ การออกฤทธิ์เร็ว เห็นผลไว ภายใน 24-48 ชม. โดยเฉพาะใครที่อยากยกกระชับกรอบหน้า คือเห็นผลทันทีที่ฉีด มีค่าความกระจายตัวที่กว้าง เหมาะกับการฉีดที่เป็นกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น กล้ามเนื้อ น่อง กราม และรักแร้ เป็นต้น เหมาะสำหรับคนที่อยากให้อยากมีน่องเรียว เล็ก ขาสวย คนที่อยากมีกรอบหน้าชัด คนที่มีปัญหากลิ่นตัวแรงหรือมีเหงื่อออกมาก
- ONA Botulinum Toxin Type A จากอเมริกา
จุดเด่นคือ ให้ผลการรักษาที่แม่นยำ เพราะมีค่าความกระจายตัวแคบ เหมาะกับกล้ามเนื้อมัดเล็กบริเวณใบหน้า จึงนิยมนำมาใช้เพื่อลดริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้า เช่น รอยตีนกา รอยย่นบนหน้าผาก รอยย่นระหว่างคิ้ว และใช้ปรับรูปหน้า
- Botulinum Toxin Type A Free Form Complexing Proteins จากเยอรมนี
คุณสมบัติเด่นคือมีความบริสุทธิ์สูง ลดโอกาสการดื้อโบท็อกซ์ได้ดี ช่วยให้รูขุมขนกระชับ ช่วยลดความมัน ทำให้ผิวเนียนละเอียด มีโมเลกุลขนาดเล็ก ทำให้เลือกแก้ปัญหาได้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เหมาะกับการใช้กับบริเวณที่เป็นกล้ามเนื้อมัดเล็กบนใบหน้า
ฉีดโบท็อกซ์ (Botox)อันตรายไหม
อย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่า โบท็อกซ์คือโปรตีนที่สกัดจากแบคทีเรีย หากใช้ในปริมาณเล็กน้อยด้วยแพทย์ผู้มีความรู้ ความชำนาญและเป็นผู้เชี่ยวชาญ เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีอันตรายเลยก็ว่าได้ ยกเว้นสารที่ฉีดเข้าไปไม่ใช่โบท็อกซ์ของแท้อาจเพิ่มโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงได้ หรือปริมาณการฉีดที่มากเกินพอดี ซึ่งจะส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดแข็ง ไม่สามารถแสดงความรู้สึก เช่น ยิ้มได้ไม่สุด ยักคิ้วไม่ได้ เป็นต้น
รวมตำแหน่งยอดนิยมของการทำ โบท็อกซ์ (Botox)
ตำแหน่งที่นิยมในการฉีดโบท็อกซ์ ได้แก่
- บริเวณใบหน้า เช่น หน้าผาก รอยตีนการอบดวงตา กราม คาง โหนกแก้ม จมูก คิ้ว
- บริเวณแขน หรือใต้รักแร้
- ขาและบริเวณน่อง
อาการแพ้หรืออาการข้างเคียงจากโบท็อกซ์ (Botox)
จากสถิติอาการแพ้จากการฉีดโบท็อกซ์มีน้อยเคสมากเมื่อเทียบกับจำนวนของคนที่ฉีด แต่ที่พบได้บ่อยจะเป็นอาการข้างเคียง ซึ่งมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย เช่น
- การติดเชื้อ เพราะสถานที่หรือคลินิกที่ไปใช้บริการไม่ได้มาตรฐาน ไม่สะอาด
- มุมปากเบี้ยว ตาตก เนื่องจากผู้ฉีดไม่มีความชำนาญ ฉีดไม่ถูกวิธี หรือฉีดผิดตำแหน่ง
- โบท็อกซ์ไหลไปในตำแหน่งอื่น ทำให้เกิดผลข้างเคียง เกิดจากการปฏิบัติตัวของตัวผู้ฉีดเอง เช่น นอนราบในช่วง 3-4 ชม. หลังการฉีด เป็นต้น
ราคา โบท็อกซ์ (Botox)
โบท็อกซ์ มีช่วงราคาที่ไม่ค่อยต่างกันมาก ราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักพัน ไปจนถึงหลักหมื่น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และค่าความบริสุทธิ์ของโบท็อกซ์ ยิ่งมีค่าความบริสุทธิ์สูงก็ลดความเสี่ยงต่อการดื้อยาได้ และลดโอกาสของการไหลของโบท็อกซ์ได้ดีมากเท่านั้น ในเรื่องของความสวยความงามไม่อยากให้มองเรื่องของราคาเป็นปัจจัยหลัก อยากให้มองที่ผลลัพธ์ และที่สำคัญที่สุดคือความความปลอดภัย และโอกาสความเสี่ยงที่ต่ำจะดีกว่า จะได้ไม่เสียความรู้สึกที่จะต้องเสียเงินเพิ่มสำหรับเคสแก้ที่ต้องกลับไปแก้ไข
การเตรียมตัวก่อนทำ โบท็อกซ์ (Botox)
การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์ เริ่มจากการหาคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์ที่มีประสบการณ์ สำหรับก่อนเข้าเสริมสวยด้วยโบท็อกซ์ ต้องเตรียมตัว ดังนี้
- หยุดยาแอสไพริน ยาแก้ปวด ยากลุ่มที่ออกฤทธิ์ต้านการอักเสบ NSAIDS ได้แก่ Naproxen, Ibruprofen เพื่อป้องกันอาการฟกช้ำอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนฉีด
- งดแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชม. ก่อนฉีด
- งดแต่งหน้า
- ก่อนฉีดให้แพทย์ผสมโบท็อกซ์ให้เห็นต่อหน้า การฉีดโบท็อกซ์แต่ละครั้ง ไม่ควรเกิน 300 ยูนิต
- ประคบหน้าด้วยความเย็นในระหว่างการฉีด เพื่อช่วยลดการไหลเวียนของเลือดบริเวณรอบๆ ที่ฉีด
ข้อปฏิบัติหลังฉีด โบท็อกซ์ (Botox)
- ขยับและเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดทันทีหลังฉีด
- เลี่ยงกิจกรรมที่จะส่งผลให้หน้าแดง
- ไม่ให้ตำแหน่งที่ฉีดโดนความร้อน ไม่ว่าจะเป็นการอบไอน้ำ ชาบู หมูกระทะ ปิ้งย่าง ทุกกรณีที่ต้องให้หน้าโดนความร้อนโดยตรง
- งดนอนราบอย่างน้อย 3-4 ชม.
- งดการทำหน้า หรือนวดหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังจากที่ฉีดโบท็อกซ์
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
การฉีดโบท็อกซ์ในปัจจุบันถือเป็นเรื่องปกติทั่วไปที่ไม่ได้มีความน่ากลัวเหมือในอดีต หากเรามีการหาข้อมูลและมีการศึกษาเคส เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานทั้งการบริการ ความสะอาด ได้รับการดูแลจากคุณหมอที่มีประสบการณ์ มีความชำนาญสูง ก่อนเข้ารับการบริการมีการปรึกษาเคสจนมั่นใจ ก็ไม่มีอะไรที่น่ากลัว
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการมีรูปร่าง หน้าตาที่ดี เป็นตัวช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดูดี ภูมิฐาน ช่วยเสริมความมั่นใจ ทั้งยังเป็นตัวช่วยเบิกทางให้ชีวิตได้รับโอกาสในหลายด้าน อย่าให้ปัญหาความไม่มั่นใจในรูปร่างหน้าตาเป็นอุปสรรคในการสร้างอนาคต
ที่มาข้อมูล
- https://www.khonkaenram.com/th/services/health-information/health-articles/beauty/botox
- https://www.vsquareclinic.com/tips/what-is-botox/
- https://www.vsquareconsult.com/botox/
- https://www.apexprofoundbeauty.com/โบท็อก-botox-คืออะไร-เหมาะกับ/
- https://th.yanhee.net/เกร็ดความรู้/ความลับของโบท็อกซ์/
- https://www.nakornthon.com/article/detail/สาวๆต้องรู้-วิธีการเลือกโบท็อกซ์ที่ถูกต้อง
- https://www.pornkasemclinic.com/knowledge/แยกให้ออก-botulinum-toxin-ชนิดไหนเหมา/
ที่มารูปภาพ
- https://www.pexels.com/th-th/photo/10600173/