หลายสิบปีที่ผ่านมาเราจะได้ยินเกี่ยวกับหลุมดำหรือรูหนอนบ่อยมากในช่วงที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นจากหนัง หนังสือ หรือ นวนิยายวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีคนให้ความรู้เกี่ยวกับหลุมดำว่ามันสามารถเดินทางไปยังอีกมิติหรือเป็นเส้นทางที่จะเดินทางไปอีกจักวาลหนึ่งด้วงเวลาอันรวดเร็ว ไม่รู้ว่าหลุมดำ หลุมขาว หรือรูหนอนที่ได้ยินกันนี้ จะเป็นเรื่องจริงหรือเป็นนิยายที่แต่งขึ้นมา ก็ทำให้นักวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันนั้นได้ศึกษาอย่างเป็นจริงเป็นจัง เพื่อจะพิสูจน์ว่ามันมีอยู่จริงในจักรวาลใบนี้
ในจักรวาลเป็นที่ที่มีสิ่งต่างๆที่ไม่คาดคิดและมีความเป็นไปได้เกี่ยวกับการจินตนาการของมนุษย์อย่างเช่น สิ่งมีชีวิตที่อยู่นอกโลก การเดินทางผ่านรูหนอน มีมิติอีกฝั่ง เป็นต้นสิ่งเหล่านี้ไม่อาจจะสามารถรู้ได้เลยว่าจะมีอยู่จริงหรือไม่ แต่เมื่อนักวิทยาศาสตร์ได้เข้ามาศึกษาก็พบเจอหลักฐานหลายอย่างที่ทำให้รู้ว่าสิ่งที่มนุษย์จินตนาการณ์นั้นอาจจะมีอยู่จริง เช่นเดียวกับการศึกษาหลุมดำ ที่มีหลักฐานถึงจะยังไม่แน่ชัดแต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะมีหลุมดำอยู่ในจักวาลแห่งนี้ ในทฤษฏีของหลุมดำ นักวิทยาศาสตร์ให้ความเชื่อว่า หลุมดำคือจุดเชื่อมต่อทางเข้าและทางออกที่อยู่ตามส่วนต่างๆของจักรวาล ซึ่งทฤษฏีนี้เกิดจากนักวิทยาศาสตร์ ไอนสไตน์ และเพื่อนของเขาได้ศึกษาคำนวณสูตรคณิตศาสตร์ในทางการเชื่อมต่อของทฤษฏีสัมพันธ์ภาพ จนเกิดมาเป็น สะพานไอน์สไตน์-โรเซน (Einstein-Rosen Bridge) หรือหลุมดำนั้นเอง
หลุมดำคือพื้นที่ว่างเปล่าในอวกาศที่มีแรงดึงดูดมหาศาล สามมารถดูดกลืนทุกสิ่งทุกอย่างได้แม้แต่แสงก็ไม่รอดพ้นจากการดูดของมันและไม่สามารถจะสลัดจากแรงดึงดูดของมันออกมาได้และมันก็จะทำลายทุกสิ่งทีมันดูดลงไปด้วย ไอนสไตน์กล่าวว่ามันไม่สามารถมารถใช้ในการเดินทางได้ แต่สำหรับในวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ให้ข้อคิดว่าหลุมดำสามารถใช้ในการเดินทางจากอวกาศหนึ่งไปยังอีกอวกาศหนึ่งได้ โดยมีการนำเสนอด้วยรูปแบบหนังวิทยาศาสตร์เรื่อง Contact ที่อิงจากหนังสือดาราศาสตร์ของ Carl Sagan
ที่มาของรูปภาพ : highpick.com
อยากมีบทความดี ๆ แบบนี้ สั่งซื้อเลย รับเขียนบทความ 1000content.com