ธรรมชาติมีความยุติธรรมเสมอ ไม่ว่าจะกับคนหรือสัตว์โลกอื่น ๆ มนุษย์มีมันสมองสุดวิเศษที่ทำให้ตนมั่นใจในความสามารถว่าเหนือกว่าสัตว์ชนิดอื่น ๆ บนโลก จนกลายเป็นนักล่าที่น่ากลัวที่สุด แม้แต่กับมนุษย์ด้วยกันเอง ในขณะที่สัตว์โลกชนิดอื่น ๆ กลับได้รับพลังวิเศษเพื่อการดำรงชีวิตอยู่และเอาตัวรอดอย่างปลอดภัย
- ยอดสัตว์นักการแพทย์ โอพอสซัม: นอกจากโอพอสซัมจะเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่หน้าตาคล้ายหนู แต่มีถุงหน้าท้องเหมือนจิงโจ้จะมีวิธีเอาตัวรอดจากนักล่าคู่ปรับอย่างหมาป่าด้วยการแกล้งตาย โดยทำเป็นนอนหงายท้อง, ตาเบิกโพลง, ลิ้นกระดก, อ้าปากค้างและปล่อยกลิ่นเหม็นจากทวารหนักแล้ว เจ้าโอพอสซัมยังมีพลังพิเศษในการรักษาพิษทุกชนิดบนโลกนี้ได้ด้วยโปรตีนที่สังเคราะห์ภายในตัวของมันเองอีกด้วย มหัศจรรย์ดีแท้
- เจ้าเหมียว สุดยอดนักกีฬากระโดดสูง: ไม่เพียงแมวน้อยจะเป็นสัตว์ขี้อ้อนที่มีโลกส่วนตัวสูง จนเป็นเจ้าของหัวใจทาสแมวหลาย ๆ คนไปแล้วเท่านั้น แต่เจ้าเหมียวน้อยเหล่านี้ ยังมีพลังพิเศษจากธรรมชาติที่ช่วยให้พวกเขาสามารถกระโดดสูงได้กว่าตัวเองไม่น้อยกว่า 5 เท่าและที่สำคัญ ร้อยละ 67 ของแมวที่ตกลงมาจากที่สูงระดับ 2 – 32 ชั้น จะได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย โดยร้อยละ 90 สามารถหายเป็นปกติได้ นี่สินะ ที่มาของสำนวนไทยที่ว่า แมว 9 ชีวิต
- ด้วงกว่าง นักยกน้ำหนัก จอมพลังตัวจริง: นอกจากด้วงกว่างจะเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมของชาวญี่ปุ่นแล้ว ด้วงกว่างที่เติบโตขี้นมาจากหนอนจนกลายเป็นแมงปีกแข็ง กล้ามโตนี้ ยังขึ้นชื่อเรื่องพลังกำลังที่มากเกินตัว เพราะว่าเจ้าด้วงกว่างสามารถแบกของที่มีน้ำหนักมากกว่าตัวของมันเองได้สูงถึง 850 เท่าเลยทีเดียว คงต้องยอมยกตำแหน่งจอมพลังตัวจริงให้ไปครอง
- นักวิ่งบนผิวน้ำ Basilisk Lizards: เป็นอีกหนึ่งสัตว์เลื้อยคลานในตระกูลเดียวกับจิ้งจก, กิ้งก่าและแย้ มักอาศัยตามแนวหุบเขาและภูเขา ด้วยพลังพิเศษจากธรรมชาติ ทำให้ Basilisk Lizards สามารถวิ่งบนผิวน้ำได้อย่างรวดเร็วและคล่องแคล่ว จนชาวต่างชาติต่างขนานนามว่า Jesus Christ Lizard
- อวัยวะงอกทดแทนได้ของเจ้าซาลามานเดอร์: สัตว์เลื้อยคลานครึ่งบกครึ่งน้ำเหมือนกบ แม้หน้าตาจะน่ากลัว แต่ก็เป็นสัตว์รักสงบ ชอบหลบเงียบ ๆ ในกองไม้ แต่หากถูกรบกวนก็จะดุร้ายและสามารถฉกกัดอย่างรุนแรงได้เช่นกัน โดยซาลามานเดอร์มีความสามารถพิเศษจากเซลล์ในตัวเองที่ชื่อว่า Macrophages ทำให้แขนขาสามารถงอกใหม่ทดแทนเองได้
- นกฮูก หูทิพย์: ไม่เพียง ฮ นกฮูกตาโต จะเป็นสัตว์ที่ออกหากินเวลากลางคืนและมีทักษะการบินที่เงียบเชียบที่สุดชนิดหนึ่งเท่านั้น แต่ดวงตาของนกฮูกยังสามารถมองวัตถุในที่มืดได้เป็นเลิศกว่ามนุษย์กว่า 100 เท่าและเห็นเป็นมุมกว้าง 100 องศาเลยทีเดียว ที่สำคัญ พลังพิเศษในการได้ยินเสียงของนกฮูกยังรับรู้ได้ไกลกว่าตัวมันเองถึง 22 เมตร ไม่ว่าเสียงจะเบาแค่ไหนก็ตาม แล้วแบบนี้เจ้านกฮูกจะหลับสนิทสักคืนบ้างไหมนะ
อย่างไรก็ดี นอกจากพลังพิเศษทั้ง 6 แบบของสัตว์โลก 6 ชนิดข้างต้นแล้ว เจ้าแมงสาบที่อาศัยไปทั่วทุกทวีปของโลกและเป็นจอมแกล้งที่โฉบบินเข้าใส่ตัวเราบ่อย ๆ นั้น ยังขึ้นชื่อเรื่องเจ้าแห่งความเร็วระดับเดียวกับเสือชีตาร์ เพราะแมงสาบสามารถทำความเร็วระดับ 2.0 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือราว ๆ 75 เซนติเมตรต่อวินาที ไม่ว่าจะวิ่งหรือบิน และยังมีพลังพิเศษในการมีชีวิตต่อได้อีก 5 วันแม้จะไม่มีหัวแล้วก็ตาม โดยจะค่อย ๆ ย่อยอาหารช้า ๆ และหายใจแบบไม่ใช้หัวได้ด้วยตนเอง จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแมงสาบถึงอายุยืนและอึด ทนทาน แม้สงครามนิวเคลียร์ก็ทำอะไรไม่ได้และกลายเป็นผู้รอดมาทุกอุบัติการณ์ของโลก