เชื่อว่านักธุรกิจทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่าถ้าอยากรักษาธุรกิจให้อยู่รอด ในยุคที่มีการแข่งขันทางธุรกิจสูงอย่างตอนนี้ นอกจากต้องบริหารจัดการด้านการเงินอย่างเป็นระบบ และรักษามาตรฐานของสินค้าหรือบริการของตัวเองเพื่อให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ อีกเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมากไม่แพ้กันคือ ‘การทำการตลาด’ เครื่องมือที่จะกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักและกลายเป็นลูกค้าของแบรนด์มากขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่นักธุรกิจส่วนใหญ่ต่างพยายามตามเทรนด์การตลาดให้ทันเพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคและนำหน้าคู่แข่งทางธุรกิจอยู่เสมอ บวกกับด้วยตอนนี้โลกออนไลน์ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันการทำการตลาดของทุกธุรกิจจึงมุ่งไปทางออนไลน์อย่างเต็มที่และกลายเป็นส่วนสำคัญในการทำการตลาดยุคใหม่
การตลาดออนไลน์คืออะไร และมีข้อดีอย่างไรบ้าง
การตลาดออนไลน์หรือ Online Marketing คือ การทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Search Engine อย่าง Google , Facebook, YouTube, Instagram, Twitter และ TikTok อีกทั้งยังรวมไปถึงการทำการตลาดผ่าน Email Marketing หรือการทำการตลาดผ่านช่องทางอีเมล , Line Marketing หรือการทำการตลาดผ่านแอปพลิเคชันสื่อสาร , Influencer Marketing หรือการทำการตลาดผ่านผู้มีชื่อเสียงในโลกออนไลน์ และการทำ Banner บนเว็บไซต์ ซึ่งข้อดีของการทำการตลาดออนไลน์คือ เป็นช่องทางการสื่อสารแบบไร้พรมแดนต่อให้อยู่คนละประเทศก็สามารถเข้าถึงเป้าหมายจำนวนมากได้ตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังสามารถประเมินผลการเข้าถึงของกลุ่มเป้าหมายผ่านเครื่องมือวิเคราะห์ในคอมพิวเตอร์ได้ง่ายกว่า ไม่ต้องเสียเวลานั่งติดตามผลภายหลังเหมือนการทำการตลาดแบบออฟไลน์
5 เทรนด์การตลาดออนไลน์มาแรงปี 2023 รู้ก่อน ทำก่อนได้เปรียบ
เหตุผลที่ทำให้การทำการตลาดแบบออนไลน์มีความสำคัญไม่แพ้การทำการตลาดแบบออฟไลน์ เพราะปัจจุบันคนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่กับโลกออนไลน์มากขึ้น โดยจากการสำรวจเมื่อปี 2021 ของ Global Digital Report พบว่าผู้คนทั่วโลกใช้งานโซเชียลมีเดียมากถึง 4.48 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นคนไทยกว่า 78% ครองอันดับหนึ่งผู้ใช้โซเชียลมีเดียมากที่สุดในโลก จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าการตลาดออนไลน์ได้กลายเป็นอีกช่องทางที่จะช่วยให้เข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น แต่อย่างทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่าตลาดออนไลน์เองมีข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงตามพฤติกรรมของผู้บริโภคอยู่ตลอดเช่นเดียวกัน ในวันนี้เราเลยหยิบเอา 5 เทรนด์การตลาดออนไลน์มาแรงในปี 2023 มาฝาก
- Short Video Marketing
การนำเสนอสินค้าหรือบริการผ่าน Short Video Marketing หรือการลงวิดีโอสั้น ๆ ผ่านสื่อโซเซียลมีเดีย อย่าง Facebook, Instagram, Twitter และที่สำคัญ TikTok เป็นกลยุทธ์ที่ทั้งแบรนด์ดังไปจนถึงเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กเลือกใช้กันมาสักระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากคนในยุคนี้นิยมการสื่อสารที่สั้น กระชับ ตรงประเด็น และได้ใจความ เพราะฉะนั้นการสื่อสารผ่านวิดีโอสั้นความยาวประมาณ 1 นาที จึงสามารถตอบโจทย์การตลาดได้ดีในปัจจุบัน
- Streaming
ถือเป็นอีกกลยุทธ์ที่มาแรงสำหรับการทำการตลาดผ่าน Streaming หรือที่หลายคนเรียกว่าการไลฟ์สด เพราะจากการสำรวจในช่วงปี 2021 พบว่ากิจกรรมอันดับหนึ่งของการใช้งานอินเตอร์เน็ตของคนทั่วโลก (ยกเว้นประเทศจีน) คือ การดู Streaming ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ทำให้นักการตลาดมองว่า Streaming จะกลายเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ต่อไป
- Voice Search
จากการเก็บข้อมูลผู้ใช้งานในช่วงอายุต่าง ๆ ตั้งแต่ปี 2017 – 2021จาก eMarketer พบว่ามีการใช้งาน Voice Search หรือคำสั่งเสียงในการค้นหาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น 36.6% นอกจากนี้ในตอนนี้ยังมีอุปกรณ์ Smart Phone และ Smart Home ที่มาพร้อมระบบ AI หรือ Artificial Intelligence ทำให้สามารถรองรับการสั่งการด้วยเสียงมากขึ้น ส่งผลให้การตลาด Voice Search เป็นอีกกลยุทธ์ที่นักการตลาดไม่ควรมองข้าม
- Visual Search
บางครั้งหากไปในสถานที่ที่ใช้ภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาแม่ การพิมพ์หรือพูดเพื่อค้นหาผ่านข้อมูลผ่าน Search Engine Online เป็นปัญหาใหญ่สำหรับหลายคน ด้วยคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ในเรื่องนี้จึงคาดการณ์ว่าการค้นหาด้วยภาพหรือ Visual Search น่าจะมีแนวโน้มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของผู้คนมากขึ้น เพราะนอกจากช่วยตัดปัญหาเรื่องภาษาให้กับผู้บริโภคแล้ว ยังเป็นวิธีการค้นหาที่ง่ายเพียงแค่สแกน หรืออัปโหลดภาพก็สามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้แล้ว
- User-Generated Content
การทำการตลาดด้วย User-Generated Content เป็นการทำตลาดที่คล้ายกับการทำตลาดแบบปากต่อปาก การตลาดแบบดั้งเดิมที่หลายคนยกให้เป็นการตลาดแบบยั่งยืนที่ทำให้ธุรกิจอยู่รอดได้ในทุกสถานการณ์ แค่เปลี่ยนมาจากการบอกต่อแบบปากต่อปากของลูกค้ามาเป็นการรีวิวบนโลกออนไลน์แทน เพราะคำพูด ข้อความ หรือวิดีโอคลิปจากลูกค้าที่ผ่านการใช้งานจริง แถมยุคนี้คนยังชอบการตลาดที่มีความจริงใจ รีวิวจริงย่อมสร้างความน่าเชื่อถือได้ดีกว่าการจ้างอินฟลูเอนเซอร์
โปรแกรมทำการตลาดออนไลน์ที่ควรศึกษา
สำหรับคนที่เพิ่งก้าวเข้าสู่การทำการตลาดออนไลน์อาจกำลังเป็นกังวลควรใช้โปรแกรมแบบไหนดีในการทำการตลาดออนไลน์ดี วันนี้เรามีเครื่องมือที่เข้าถึงได้ง่าย ๆ มาแนะนำ
- Google Analytics
การทำการตลาดออนไลน์ผ่าน Search Engine Online ยอดนิยมอย่าง Google หากไม่ซื้อโฆษณาก็ต้องอาศัยสิ่งที่เรียกว่า SEO Content เพื่อทำให้หน้าเว็บไซต์ของตัวเองติดหน้าแรกของการค้นหา ซึ่งเครื่องมือฟรีที่มีชื่อว่า Google Analytics จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจเก็บสถิติผู้เข้าชม Content และประเมินผลการใช้งานหน้าเว็บไซต์ของกลุ่มลูกค้า
- Keyword Planner
หากเจ้าของธุรกิจให้น้ำหนักกับการทำ SEO Content มากกว่าการทำตลาดออนไลน์ในช่องทางอื่น เครื่องมือที่ขาดไม่ได้คือ Keyword Planner เครื่องมือหา Keyword ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมการค้นหาของผู้บริโภค ซึ่งจะช่วยการค้นหาคำไปใช้ในการเขียนบทความได้ง่ายขึ้น
- Facebook’s Power Editor
โปรแกรม Facebook’s Power Editor เป็นเครื่องมือช่วยทำการตลาดสำหรับแพลตฟอร์ม Facebook โดยเครื่องมือนี้จะช่วยสร้างโฆษณาที่คล้ายคลึงกันออกมาจำนวนมากในครั้งเดียว ทำให้ช่วยประหยัดเวลาในการทำการโฆษณามากขึ้น
- MailChimp
เครื่องมือที่ชื่อว่า MailChimp เป็นเครื่องมือทำการตลาดในกรณีของ Email Marketing ซึ่งตัวเครื่องมือจะทำหน้าที่เก็บข้อมูลอีเมล์จำนวนและส่งอีเมลไปยังกลุ่มเป้าหมายจำนวนมากในครั้งเดียว
เป็นอย่างไรบ้างสำหรับ 5 เทรนด์ใหม่การตลาดออนไลน์ที่กำลังมาแรงในปี 2023 และข้อมูลดี ๆ ที่นำมาฝากกัน โดยจะเห็นได้ว่าการตลาดออนไลน์นั้นมีความสำคัญต่อการทำธุรกิจในยุคนี้ ซึ่งถ้าอยากเติบโตในตลาดอย่างไร้ขีดจำกัด การศึกษาเทรนด์การตลาดและเครื่องมือทำการตลาดออนไลน์จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม
ที่มาข้อมูล
- https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/958161
- https://www.martechthai.com/technology/what-is-visual-search/
- https://stepstraining.co/search/6-techniques-for-seo-voice-search
- https://goonlinethailand.com/blog/online-marketing/marketing-trend/
- https://stepstraining.co/strategy/14-digital-markeing-and-business-trends-in-2023
- https://talkatalka.com/blog/digital-marketing-trends-2023/
- https://www.mandalasystem.com/blog/th/48/digital-marketing-21082020#topic1
- https://stepstraining.co/strategy/10-tools-for-online-marketing