ภาพ : www.khaosod.co.th
อดีตดาราเด็ก น้องไทเกอร์ ที่เคยเป็นนักแสดงช่อง 7 เรื่องฝนเหนือ รวมถึงเคยแสดงภาพยนตร์เรื่องผีเลี้ยงลูกคน กับดาราสาวชื่อดัง อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ เมื่อสมัยที่ยังเป็นเด็กอยู่นั้น ปัจจุบันได้โตขึ้นเป็นเด็กหนุ่มในวัย 16 ปี และมีข่าวจากอินสตาแกรมของน้องไทเกอร์เองที่โพสต์ว่าสอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ติดปัญหาไม่มีเงินเรียน
ตามประวัติน้องไทเกอร์เป็นเด็กหัวดีและเรียนดี ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนสาธิตจุฬา ชีวิตครอบครัวของน้องอาศัยอยู่กับคุณแม่เพียงแค่ 2 คน มีฐานะยากลำบาก ต้องอาศัยในห้องเช่าเล็ก ๆ น้องไทเกอร์ต้องทำงานหาเงินเพื่อช่วยครอบครัวโดยเป็นพนักงานในร้านเชสเตอร์กริลล์ ได้ค่าจ้างชั่วโมงละ 40 บาท และยอมรับว่าต้องทำงานทุกวัน ไม่อย่างนั้นจะไม่มีเงินเพื่อนำไปใช้จ่ายในครอบครัว
ล่าสุดได้มีข้อความโพสต์ผ่านอินสตาแกรมของน้องไทเกอร์ที่ใช้ชื่อว่า @marteenpry ว่าสอบติดคณะวิศวะของจุฬา แต่ติดปัญหาไม่มีเงินเรียน ซึ่งเรื่องนี้เป็นกระแสพูดถึงกันในโลกออนไลน์อย่างมากมาย คนส่วนใหญ่แสดงความเห็นใจและบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือน้องไทเกอร์กันเป็นจำนวนมาก และน้องไทเกอร์ได้ออกมาโพสต์อินสตาแกรมขอบคุณผู้ใจบุญทุกท่าน พร้อมกับสัญญาว่าจะใช้เงินทุกบาททุกสตางค์เพื่อการเรียนให้คุ้มค่ามากที่สุด ทั้งอาชีพเสริมที่ทำอยู่ก็จะไม่ทิ้ง ยังคงทำต่อไปเพื่อหารายได้ แต่อาจทำน้อยลงเพื่อดูแลสุขภาพและใช้เวลากับการเรียนให้มากขึ้น เพื่อจะได้เรียนจบออกมาและมีงานดี ๆ ทำ
ภาพ : www.women.kapook.com
อย่างไรก็ตาม มีคำถามที่เป็นข้อสงสัยว่า ผู้ที่นำภาพมาลงในอินสตาแกรมของน้องไทเกอร์อาจเป็นตัวคุณแม่ หรือแม้แต่รุ่นพี่ที่ออกมาบอกว่าทางคณะมีทุนเรียนให้ ข่าวที่เกิดขึ้นอาจมีเบื้องลึกเบื้องหลังที่ทำให้เรื่องของน้องดูน่าสงสารและน่าเห็นใจมากขึ้น ดาราสาว อั้ม พัชราภา ที่เคยช่วยเหลือน้องไปเมื่อตอนที่น้องประสบอุบัติเหตุถูกน้ำร้อนลวกเมื่อหลายปีก่อน ก็ออกมาบอกว่าเห็นใจและสงสารน้อง แต่น่าจะมีคนช่วยเหลือน้องมากอยู่แล้ว ให้คนอื่นช่วยไปก่อน ตนเองขอเป็นคนสุดท้ายที่มีอะไรก็คิดถึงเราได้
ถือเป็นกระแสดราม่าพอสมควรสำหรับข่าวของน้องไทเกอร์ในครั้งนี้ เนื่องจากมีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตถึงเรื่องราวที่ดูน่าสงสารเกินจริง การนำภาพการทำงานของน้องที่ดูหนักและไม่เหมือนกับภาพที่ปรากฏต่อหน้าเพื่อน ๆ ที่โรงเรียน ข้อความและภาพในอินสตาแกรมของน้องที่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ตัวน้องเป็นผู้นำมาลงเอง อีกทั้งในอดีตก็เคยไปอ่านกลอนเพื่อขอบริจาคค่าเล่าเรียนมาแล้ว อย่างไรก็ตาม เรื่องจริงคือตัวน้องมีฐานะยากจน ชีวิตค่อนข้างลำบาก ด้วยการเป็นเด็กเรียนดี สอบติดวิศวะจุฬาได้ หากเรียนจบก็มีโอกาสได้ทำงานดี ๆ และมีรายได้สูงขึ้น เพื่อนำมาจุนเจือครอบครัว จึงทำให้มีหลายคนที่เห็นใจและบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือน้องเป็นจำนวนมากนั่นเอง ส่วนเรื่องราวของน้องไทเกอร์จะเป็นกระแสข่าวไปอีกนานแค่ไหนนั้น เราคงต้องติดตามกันต่อไป