จากที่กรมการขนส่งได้ตั้งเตรียมปรับเกณฑ์การสอบใบขับขี่ใหม่นั้น เพื่อให้มีความเข้มข้นมากขึ้น คือ จากเดิมกำหนดเกณฑ์การสอบผ่านไว้ที่ 45 ข้อ หรือ 90% เปลี่ยนเป็นผู้สอบจะต้องทำคะแนนสอบเต็ม 50 ข้อ หรือ 100% จึงจะมีการออกใบอนุญาตขับขี่ให้ได้ โดยจะเน้นหมวดสำคัญคือความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในการขับขี่ ไม่ได้เน้นทุกหมวด เพราะเกรงว่าคนอาจจะมองว่าข้อสอบมีความยากเกินไป และหากแนวคิดดังกล่าวจะนำมาใช้จริงทางเจ้าหน้าที่จะมีการนำตัวอย่างข้อสอบ จำนวน 1,000 ข้อ มาโพสต์ลงในเว็บไซต์ของทางกรมการขนส่งทางบกเพื่อให้ผู้เข้าสอบได้ศึกษาก่อนเข้าสอบจริง และยังมีการปรับระยะเวลาในการอบรมก่อนเข้าสอบจากเดิม 4 ชั่วโมง เป็น 15 ชั่วโมง โดยแบ่งตารางการอบรม เป็นการอบรมด้านวิชาการ 5 ชั่วโมง และอบรมภาคปฏิบัติ 10 ชั่วโมง ซึ่งคาดว่าเกณฑ์ใหม่จะมีการนำมาบังคับใช้ในปี 2560 สำหรับเรื่องของใบขับขี่ก็อยู่ระหว่างการศึกษาว่าจะมีการรวมใบขับขี่และประเภทมารวมในใบเดียวกันหรือไม่ ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ และอาจจะรวมไปถึงใบขับขี่ส่วนบุคคลที่จะนำมารวมกับใบขับขี่รถรับจ้าง ซึ่งจะมีการกำหนดสัญลักษณ์แยกความแตกต่างระบุไว้บนบัตรแทน
เกณฑ์การสอบใบขับขี่ใหม่เกิดนั้นมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบเป็นอย่างมาก ที่กรมการขนส่งทางบกเตรียมปรับระเบียบการทำใบขับขี่ใหม่ เพราะจากที่ต้องเข้าอบรม 5 ชั่วโมง เป็น 15 ชั่วโมง โดยให้โรงเรียนสอนขับรถยนต์เอกชนดำเนินการได้นั้น จะต้องมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 5,000 บาทต่อครั้ง โดยส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า หลักเกณฑ์ใหม่นี้สร้างความลำบากมาก เพราะกำหนดระยะเวลาอบรมที่ค่อนข้างนาน และผู้ประสงค์จะสอบใบขับขี่ส่วนใหญ่คือผู้ที่อยู่ในวัยทำงาน การที่จะหาเวลามาเข้าอบรมให้ครบตามจำนวนที่กำหนดใหม่ก็ค่อนข้างยาก ขณะที่บางรายอาจขับรถเป็นอยู่แล้ว แต่ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งอัตราค่าใช้จ่ายในการสอบต่อครั้งสูงถึง 5,000-6,000 บาท แต่คุณภาพของโรงเรียนสอนขับรถยนต์เอกชนบางรายก็อาจจะไม่ได้มาตรฐาน เช่น สภาพรถที่ใช้สอนเก่าเกินไป หลายฝ่ายให้ความเห็นว่าการกำหนดระเบียบใหม่นี้ไม่ใช่เป็นการแก้ไขปัญหาการเกิดอุบัติเหตุจราจรที่ถูกต้อง แต่กลับเป็นการสร้างภาระให้กับประชาชนให้ต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงมากขึ้น และเวลาที่ต้องเสียไป
ทั้งนี้เรื่องดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงและรอเสนอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา ก่อนส่งให้กระทรวงคมนาคมออกประกาศใช้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถประกาศใช้ภายในปีนี้
ล่าสุดผลการประชุมคณะรัฐมนตรี กระทรวงคมนาคมแจ้งว่าขอถอนกฎระเบียบเรื่องเกณฑ์ใหม่นี้ เพื่อนำกลับไปทบทวนใหม่ เพราะเรื่องนี้ได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมาก ซึ่งก็ขอคาดหวังว่ามาตรการใหม่ที่ปรับแล้วจะช่วยลดอันตรายหรืออุบัติเหตุที่เกิดจากการขับรถโดยประมาทได้ด้วย