ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจากหลายชาติ รวมถึงนักท่องเที่ยวไทยเอง เริ่มสนใจการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น และหนึ่งในสถานที่ยอมนิยมสำหรับการท่องเที่ยว ก็คือ เมืองโฮจิมินห์ หรือ ไซ่ง่อน(ชื่อเดิม) ซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ทางบริเวณตอนใต้ของเวียดนามนั่นเอง
แม้ว่าชื่อใหม่จะถูกเรียกว่า โฮจิมินห์ซิตี้ ก็ตาม แต่ชาวเมืองโฮจิมินห์ ยังคงภูมิใจกับชื่อเดิมอย่าง ไซ่ง่อน (Saigon) และพอใจที่จะถูกเรียกว่าเป็นชาวไซ่ง่อน หรือ Saigonese เสียมากกว่า แม้ว่าจะโฮจิมินห์ซิตี้ หรือไซ่ง่อน นี้จะไม่ได้เป็นเมืองหลวงอย่างเป็นทางการของเวียดนามในปัจจุบัน (ฮานอย คือ เมืองหลวงของเวียดนาม) แต่ก็เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวมักจะคิดถึงเป็นลำดับแรก ๆ หากคิดจะมาท่องเที่ยวที่เวียดนาม อาจเป็นเพราะความเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ และเป็นสถานที่ที่มีสตรีทฟู้ดที่แสนจะขึ้นชื่อว่าน่าลิ้มลอง และควรจะมาสัมผัสด้วยตัวเองในท้องถิ่นแท้จริงอย่างโฮจิมินห์ซิตี้ หรือไซ่ง่อน จึงจะถือว่าได้ชิมรสชาติที่แท้จริงของสตรีทฟู้ดอันเลื่องชื่อ
สำหรับคนต่างชาติต่างภาษาอย่างพวกเรา คงจะรู้จักอาหารเวียดนามอย่าง เฝอ ซึ่งชาวไซ่ง่อนนิยมรับประทานกันเป็นมื้อเช้า แต่อาหารเช้าสำหรับคนที่นี่ นอกจากเฝอแล้ว ยังมี เกิ่มต๋า บั๋นหมี่ และแบ๋งก๋วนอีกด้วย ซึ่งแบ๋งก๋วน จะมีลักษณะคล้ายกับข้าวเกรียบปากหม้อของบ้านเรา แต่ต่างกันที่ไส้ข้างในของแบ๋งก๋วนจะเป็นหมูสับ เห็ดหูหนู หอมใหญ่ ผัดกับเครื่องปรุงรส แล้วก็รับประทานคู่กับถั่วงอกลวก ราดด้วยน้ำจิ้ม โรยหน้าด้วยผักชีและหอมเจียว บางร้านอาจใส่ไข่เพิ่มลงไปอีก ช่วยเพิ่มทั้งคุณค่าทางอาหารและมิติของรสชาติให้มากยิ่งขึ้น
มาถึงมื้อเที่ยงของชาวไซ่ง่อน มีหลากหลายเมนูเช่นกัน แต่ที่อยากจะพูดถึงมากที่สุด คือ เจ๋าหล่ง หรือข้าวต้มเครื่องในหมูแบบเวียดนามนั่นเอง มีลักษณะเป็นข้าวต้มที่ต้มจนนิ่ม ปรุงรสด้วย ขิง มะนาว พริก แล้วโรยหน้าด้วยต้นหอมซอยพร้อมถั่วงอก จะว่าไปแล้วเจ๋าหล่งนี่สามารถหารับประทานได้ทุกมื้อ และเป็นเมนูที่ชาวไซ่ง่อนเชื่อกันว่า หากใครไม่สบายหรือมีอาการป่วย แล้วได้รับประทานเจ๋าหล่งร้อน ๆ สักถ้วย อาการป่วยก็จะกลับดีขึ้นได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น เพราะมีคุณค่าทางอาหารสูงมากนั่นเอง
นอกจากเมนูที่ชื่อ เจ๋าหล่ง แล้ว มื้อเที่ยงที่เป็นที่นิยมแบบสุด ๆ ก็คือเมนูหอยที่ถูกปรุงมาในรูปแบบต่าง ๆ ร้านที่ขายเมนูหอย ๆ นี้ จะเรียกกันว่าร้านก๋วนอ๊อก ถ้าอยากไปลิ้มลองกันก็จัดได้เลย ถูกใจคนรักเมนูหอยอย่างแน่นอน
ส่วนมื้อเย็นก็มีเมนูให้เลือกหลากหลายเช่นกัน แต่ถ้าอยากรับประทานอาหารไซ่ง่อนแท้ ๆ ในบรรยากาศไซ่ง่อนแบบแท้ ๆ เช่นกัน ก็ต้องเมนูนี้เลย “ฝาเหลา” ของรับประทานเล่นที่มีขายตามข้างทาง ร้านริมถนน มีลักษณะเป็นเครื่องในวัวชนิดต่าง ๆ รวมกันอยู่ในน้ำแกงที่มีรสชาติคล้ายน้ำพะโล้ผสมกะทิ โรยหน้าด้วยผักหอม และพริก แอบกระซิบว่าเมนูนี้ หารับประทานได้แค่ที่เวียดนามตอนใต้เท่านั้น ถ้าไปเที่ยวเวียดนามตอนเหนือ ไม่มีขายให้ชิมกันนะจ๊ะ
สำหรับสตรีทฟู้ดที่จะหารับประทานได้ในช่วงเย็น ๆ ของที่นี่นั้น ยังมีที่น่าลองอีกหลายอย่าง เช่น บั๊บซาว บ่อ เบี๋ย หง่อด และบั๋นแจงหนึง เมนูที่ชื่อบั๊บซาว คือ ของทานเล่น เป็นข้าวโพดดิบฝาน ผัดกับเนย โรยต้นหอมที่หั่นเป็นแว่น และกุ้งแห้งลงไป ปรุงรสด้วยเกลือ และพริกไทย แค่นี้ก็หอมเตะจมูกคนที่เดินผ่านไปมา ห้ามใจให้ซื้อไม่ได้เลย ส่วนบ่อ เบี๋ย หง่อด เป็นของหวานของที่นี่ หน้าตาคล้ายกับขนมถังแตกบ้านเรา แต่จะมีนมข้นหวานเพิ่มมาด้วย เพิ่ม texture ที่เหนียวหนึบ และรสชาติที่กลมกล่อมขึ้น ต่อมายิ่งพลาดไม่ได้ บั๋นแจงหนึง หรือพิซซ่าเวียดนามนั่นเอง หน้าตาอาจไม่คล้ายกับพิซซ่าของฝรั่งสักเท่าไร เพราะทำจากแผ่นข้าวเกรียบบาง ๆ ใส่เครื่องที่เป็นกุ้งแห้ง หอมเจียว ต้นหอมซอย หมูสับ ไข่นกกะทา ขิง ผักหอม เนย ลงไปด้านบน เมนูนี้ขอย้ำว่าต้องรับประทานตอนร้อน ๆ เท่านั้น ถึงจะฟินได้รสชาติ กลิ่น และ texture ที่แท้จริง
ขอย้อนกลับมาที่บั๋นหมี่ และ เกิ่มต๋ำ กันสักหน่อย เพราะ 2 เมนูนี้ ก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน หากได้ไปโฮจิมินห์ซิตี้แล้วล่ะก็ ต้องหาโอกาสลิ้มชิมรสกันให้จงได้
บั๋นหมี่ เมนูนี้เริ่มแพร่หลายไปสู่สากลได้ระยะหนึ่งแล้ว แม้แต่ในไทยเอง ก็สามารถหารับประทานได้ที่กทม. แต่มันจะไม่ดีกว่าหรอ ถ้าจะมาชิมของแท้ต้นตำรับที่ไซ่ง่อนด้วยตัวเอง บั๋นหมี่เป็นอาหารที่บ่งบอกถึงการผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ระหว่างอาหารแบบฝรั่งเศส และอาหารดั้งเดิมของเวียดนาม เพราะบั๋นหมี่ใช้ baguette แบบฝรั่งเศส และใส่ไส้ในสไตล์เวียดนาม เช่น หมูเวียดนาม หมูกรอบ ไก่ตะไคร้ แล้วเติมผักแช่อิ่ม พริก ผักชี แตงกว่า แครอทลงไปด้วย ลงตัวทั้งเรื่องของรสชาติ คุณค่าทางอาหารและมิติของอาหารเลยทีเดียว
สำหรับเกิ่มต๋ำ เป็นเมนูที่มีที่มาอันยาวนานของชาวไซ่ง่อน เพราะเป็นเมนูโบราณ มีมาแต่ตั้งเดิม ตั้งแต่สมัยที่ยังทำนาข้าวเป็นหลัก ในช่วงเวลานั้น หลังจากที่สีข้าวแล้ว จะเกิดข้าวหัก หรือข้าวที่ไม่สมบูรณ์ ขายไม่ได้ราคา ซึ่งผู้คนจะเก็บข้าวชนิดนี้ไว้รับประทานกันเองในครัวเรือน มองจากข้อมูลนี้ ดูเหมือนจะเป็นเมนูของคนใช้แรงงาน เป็นอาหารของคนที่ไม่มีฐานะร่ำรวย แต่เชื่อไหมว่า เกิ่มต๋ำ มีเสิร์ฟและมีขายตั้งแต่ในร้านอาหารริมทางธรรมดา ๆ จนถึงระดับภัตตาคารหรูเลยทีเดียว ด้วยรสชาติที่ลงตัวและอร่อยจนเป็นที่ร่ำลือของข้าวหัก ๆ ที่นำมาโปะหน้าด้วยหมูย่างรสเลิศ รับประทานคู่กับซอส และผักดองรสออกเค็ม ๆ ถือเป็นความเอร็ดอร่อยที่ตั้งอยู่บนความเรียบง่าย ที่น่าลิ้มลองสักครั้งในชีวิตการเดินทางของคุณ
สตรีทฟู้ดของโฮจิมินห์นั้น โดยรวมแล้วตั้งอยู่บนความเรียบง่าย แต่ก็ล้วนน่าลิ้มลอง และยังมีหลายเมนูที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นเมนูคู่สุขภาพเลยทีเดียว น่าจะเพราะความโดดเด่นในลักษณะนี้ จึงทำให้สตรีทฟู้ดโฮจิมินห์ กลายเป็นสตรีทฟู้ดที่แพร่หลาย เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ และดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชิมรสชาติที่แท้จริงถึงถิ่นไซ่ง่อน