หมู่นี้มีข่าวอุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นบ่อยมาก ไม่ว่าจะเป็นการขับรถโดยประมาทจนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต หรือแม้กระทั่งอุบัติเหตุที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นอย่างคานเหล็กรถไฟฟ้าขนาด 1 ตันหล่นใส่รถเก๋ง แต่อุบัติเหตุในครั้งนี้ยังคงมีความโชคดีอยู่ที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม เกิดเหตุคานเหล็กของแนวการก่อสร้างรถไฟฟ้าหล่นลงมาทับรถเสียหาย ที่บริเวณถนนพหลโยธินขาเข้าช่วงเสนานิคม ไปสี่แยกรัชโยธิน หรือช่วงตรงข้ามกับซอยพหลโยธิน 35 คานเหล็กลอยหล่นลงมาที่ห้องเครื่องยนต์ เก๋งนิสสัน มาร์ช สีเขียว ซึ่งจอดติดอยู่เลนขวาสุด ซึ่งโชคดีมากที่คานเหล็กหล่นใส่แค่บริเวณห้องเครื่องรถ ไม่ได้โดนห้องโดยสาร ทำให้ผู้ขับรถคือนางสาวสุพรรณี ลาสุดี อายุ 33 ปี ไม่ได้รับอันตรายหรือบาดเจ็บ
หลังเกิดเหตุการณ์ในวันที่ 22 มีนาคม ผู้เสียหาย และตัวแทนบริษัทผู้รับเหมา ซึ่งก็คือบริษัทอิตาเลี่ยนไทย ดีเวล๊อปเมนต์จำกัด (มหาชน) ได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจพหลโยธินเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยค่าเสียหายและค่าทำขวัญต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ ทำให้ต้องนัดมาเจรจากันใหม่อีกรอบ โดยตัวแทนของบริษัทอิตาเลี่ยนฯ กล่าวว่าต้องนำข้อเรียกร้องของผู้เสียหายไปนำเสนอต่อผู้บริหารที่มีอำนาจในการพิจารณา ว่าจะมีแนวทางในการเยียวยาผู้เสียหายอย่างไร ส่วนที่บริษัทฯ จะเยียวยาตามข้อเรียกร้องหรือไม่นั้น คงต้องนัดหมายเจรจาอีกครั้ง สำหรับเรื่องค่าใช้จ่ายที่ยังตกลงไม่ได้ เป็นเพราะผู้เสียหายเรียกร้องสูงมาก อีกทั้งทางบริษัทฯ ยังต้องการหลักฐานให้ครบถ้วนก่อน ในขณะที่ฝ่ายผู้เสียหายก็ได้ให้เหตุผลว่า ตอนนี้เธอยังไม่สามารถไปทำงานได้ และตนยังคงหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้ยังขับรถไม่ได้ ช่วงนี้ตนร้องไห้บ่อย ๆ และมีอาการนอนไม่หลับซึ่งมีสาเหตุมาจากความกังวลในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนอยากจะขอให้ทางบริษัทอิตาเลียนฯ เร่งเยียวยา และตนยังสงสัยว่าทำไมบริษัทอิตาเลี่ยนฯ ถึงยังสรุปเรื่องไม่ได้และจะชดเชยตนได้อย่างไรบ้าง แต่ไม่ขอระบุว่าเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นว่าทั้งสองฝ่ายยังตกลงกันไม่ได้ จึงนัดเจรจากันอีกครั้งในวันที่ 31 มีนาคม เวลา 10.00 น. ที่ สน.พหลโยธิน
ภาพ : khaosod.co.th
ต่อมาในวันที่ 23- มีนาคม ตัวแทนบริษัทอิตาเลี่ยนฯ ได้จัดงานแถลงข่าวเพื่อแถลงความเสียใจต่อผู้เสียหาย และต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกำชับให้ผู้รับเหมากำหนดมาตรการการยกสิ่งของก่อสร้างขึ้นที่สูงต้องได้รับอนุญาตเพื่อให้เกิดการทำงานที่รัดกุมยิ่งขึ้น ด้านผู้อำนวยการโครงการบริษัท อิตาเลี่ยนไทย กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินการเยียวยาในเรื่องนี้แล้ว โดยได้จัดรถเช่าทดแทนให้ใช้ก่อน และเสนอรถยนต์คันใหม่ให้ผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายไม่รับข้อเสนอ แต่เรียกร้องให้ บริษัทฯ ต้องชดใช้เป็นเป็นเงิน ซึ่งบริษัทผู้รับเหมา ยินยอมจ่ายเงิน 1,500,000 บาท (หนึ่งล้านห้าแสนบาท) ทั้งนี้ บริษัท ให้ผู้เสียหายโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ นิสสัน มาร์ช คันเกิดเหตุให้เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท อิตาเลี่ยนไทย ผู้รับเหมาโครงการ
ส่วนกรณีที่ยังมีรถยนต์ โตโยต้า อีก 1 คัน ที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นจุดเดียวกับรถนิสสัน มาร์ช ผู้เสียหาย เรียกร้องให้บริษัทซ่อมให้ พร้อมจัดรถทดแทนและคนขับ เนื่องจากเป็นผู้สูงอายุ ซึ่งได้ข้อสรุปเป็นที่พอใจกับทุกฝ่าย