เรื่องหนี้เป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกจริง ๆ นะคะ แต่รัฐบาลชุดปัจจุบันก็มีนโยบายในการช่วยเร่งแก้ปัญหาหนี้ของประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ทั้ง 17 แห่ง และบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (บสส.) ในการเปิดตัวโครงการใหม่เพื่อช่วยเหลือประชาชนในการแก้ปัญหาหนี้ เป็นโครงการคลินิกแก้หนี้ โดยจะคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำเพียงแค่ไม่เกิน 7% ต่อปีเท่านั้น และยังให้ผ่อนคืนยาวสูงสุดได้ถึง 10 ปีอีกด้วย
ภาพ : http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/754567
งานนี้ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย นายวีรไท สันติประภพ เป็นผู้ออกมาเปิดเผย โดยได้เกริ่นนำถึงปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนของคนไทยว่ามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นมาโดยตลอด หนี้สินภาคครัวเรือนกระโดดจาก 59% ต่อ GPD ในปี 2553 มาแตะระดับ 80% ในปัจจุบัน และแน่นอนว่าเป็นหนี้ที่ทำให้การดำเนินชีวิตของหลายคนประสบกับความยากลำบาก ต้องมีหนี้สินล้นพ้นตัว ส่งผลกระทบในหลาย ๆ ด้าน รวมไปถึงภาพใหญ่ที่เป็นภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวด้วย ประชาชนส่วนใหญ่ที่มีปัญหาหนี้สินจำนวนมาก มีเจ้าหนี้หลายรายไม่สามารถเจรจาเพื่อประนอมหนี้หรือจัดการหนี้ได้ ทำให้หนี้ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกจุด
ธนาคารแห่งประเทศไทย พร้อมกับสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ และบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท หรือ บสส. ได้เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้ร่วมกันจัดโครงการเพื่อแก้ปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนขึ้น ซึ่งเป็นหนี้สินส่วนบุคคลแบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันขึ้น เป็นโครงการคลินิกแก้หนี้ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีความประสงค์อยากแก้ไขปัญหาหนี้ของตัวเอง ให้มีช่องทางในการปลดหนี้ได้แบบจริงจังและมีประสิทธิภาพ ปัญหาหนี้จะถูกแก้ไขอย่างเบ็ดเสร็จและครบวงจร โดยใช้มาตรฐานเดียวกัน
ข้อดีในการเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ก็คือ ลูกหนี้จะไม่ต้องถูกทวงถามจากเจ้าหนี้หลายราย สามารถลดภาระในการผ่อนชำระต่อเดือนลงได้ เป็นการรวมหนี้เป็นก้อนเดียว และผ่อนชำระกับเจ้าหนี้รายเดียว
ภาพ : http://www.posttoday.com/economy/finance/495234
หน่วยงานที่จะรับหน้าที่เป็นสื่อกลางหรือหน่วยงานกลางประสานและจัดการในฐานะเจ้าหนี้ ก็คือ บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท หรือ บสส. โดยโครงการนำร่องจะมีการจัดทำขึ้นในวันที่ 1 มิถุนายน 2560 นี้ เน้นย้ำสำหรับหนี้ที่จะเข้าโครงการคลินิกแก้หนี้ได้นั้นจะต้องเป็นหนี้ที่มีเจ้าหนี้หลายราย เป็นหนี้ส่วนบุคคลแบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นหนี้กับธนาคารไทยหรือสาขาของธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ และมีสถานะเป็นหนี้ที่ค้างชำระเกินกว่า 90 วัน ก่อนวันที่ 1 พฤษภาคม 2560 สำคัญที่สุดลูกหนี้ต้องมีความตั้งใจที่อยากแก้ปัญหาหนี้แบบจริงจัง พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้จ่ายให้มีวินัยมากขึ้น ไม่ก่อหนี้เพิ่มภายใน 5 ปี ลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษที่ 4-7% ต่อปี และผ่อนนานสูงสุดได้ถึง 10 ปี
เหตุผลที่โครงการเลือกช่วยลูกหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคล ก็เป็นเพราะสินเชื่อแบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันในประเทศไทยนั้นมีการขยายตัวมาเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง แต่เครื่องมือหรือกลไกของรัฐในการเข้ามาแก้ปัญหาหนี้ประเภทนี้แบบจริงจังยังไม่มี