ภาพ : http://www.kaojorleuk-media.com/archives/10022
ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถทราบตัวกลุ่มคนร้าย 5 คนที่ร่วมกันก่อคดีฆ่าหั่นศพน้องแอ๋ม และเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตามจับกุมตัวคนร้ายได้ 2 คน คือ นายวศิน นามพรหม อายุ 22 ปี ซึ่งในขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ที่ศาลจังหวัดขอนแก่น และอีกคนคือ น.ส. จินดารัตน์ พรหมคุณ หรือเบนซ์ อายุ 21 ปี ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางขอนแก่น โดยทั้งสองถูกคุมตัวในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ลอบฝัง ซ่อนเร้นหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตาย และปล้นทรัพย์หรือรับของโจรจากคดีฆ่าหั่นศพ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังยืนยันว่ากำลังติดตามจับกุมผู้ต้องหาอีก 3 คนที่กำลังหลบหนีอยู่
ภาพ : http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/757514
จากกรณีข่าวการฆ่าหั่นศพน้องแอ๋มทำให้เราได้รู้ว่าหากเราเข้าไปอยู่สภาพแวดล้อมของสิ่งที่ไม่ดี ซึ่งในกรณีนี้ คือ ยาเสพติด ทำให้ชีวิตเราเหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย มีโอกาสสูงมากที่จะต้องตกอยู่ในอันตราย ซึ่งในบางกรณีอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ เช่น ในกรณีของน้องแอ๋ม นอกจากนี้ ในกรณีของสาวเปรี้ยวที่เป็นผู้ลงมือหั่นศพน้องแอ๋มนั้น หากทั้งสาวเปรี้ยวและสามีไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องพบกับจุดจบเช่นนี้ ดังนั้น จึงเป็นข้อคิดสอนใจให้กับคนไทยทุกคนรวมทั้งเยาวชนไทยรุ่นใหม่ ๆ ด้วย เพื่อไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด สิ่งที่ผิดกฎหมาย หรือสิ่งที่ไม่ดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้มักพาให้เราไปพบกับจุดจบที่ไม่ดี
นอกจากนี้ยังมีอีกประเด็นหนึ่งที่เป็นที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย คือ อายุของกลุ่มคนร้ายซึ่งนอกจากส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงแล้ว แต่ละคนยังมีอายุอยู่ในช่วงวัย 21 – 25 ปี ซึ่งถือว่าอายุยังน้อยมาก แต่ได้ลงมือก่อเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต และมีพฤติกรรมเหี้ยมโหดซึ่งคนปกติไม่สามารถทำได้ คือ การใช้เลื่อยหั่นศพ ในกรณีนี้มีความคิดเห็นจากนักกิจกรรมบำบัด ม.มหิดล และนักอาชญาวิทยา ม. รังสิต ซึ่งมีความคิดเห็นสอดคล้องกันว่า เปรี้ยวผู้ลงมือหั่นศพน่าจะมีจิตใจที่ผิดปกติ และการเป็นเน็ตไอดอลของเปรี้ยวทำให้เปรี้ยวติดคำชม ติดหลงตัวเอง เสพติดต้นแบบซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่เขาดู ทำให้เปรี้ยวลงมือกระทำผิดตามต้นแบบด้วยความมั่นใจ
ดังนั้น จึงต้องย้อนกลับมาดูเยาวชนไทยตั้งแต่หน่วยที่เล็กที่สุดในสังคมไทย ซึ่งก็คือครอบครัว ที่ควรดูแลเอาใจใส่เด็ก และหล่อหลอมให้เด็กเติบโตขึ้นเป็นคนอย่างสมบูรณ์ หากเด็กมีพฤติกรรมที่ผิดปกติ เช่น ชอบใช้ความรุนแรง คบเพื่อนไม่ดี มีแนวโน้มที่จะไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ผู้ปกครองควรรีบหาทางป้องกันแก้ไข นอกจากนี้ ควรพาเด็กเข้าสู่ระบบการรักษา หรือแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความร่วมมือกันในการป้องกันการเกิดอาชญากรรมต่าง ๆ
ภาพ : https://www.thairath.co.th/content/958618#&gid=null&pid=6
เหตุการณ์ที่คล้าย ๆ กับกรณีของน้องแอ๋มมีให้เห็นมากมายในอดีตที่ผ่านมา และยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่ไม่ได้เป็นข่าวและไม่มีใครรู้เห็น การสังเวยด้วยชีวิตล้วนนำมาซึ่งความเจ็บปวดแก่ผู้ที่สูญเสีย นอกจากนี้ ผู้ก่อเหตุรวมถึงผู้ร่วมก่อเหตุเองก็ต้องพบกับความสูญเสียอิสรภาพ และทุกสิ่งในชีวิตถึงแม้ว่าจะยังมีลมหายใจอยู่ ดังนั้น ขอให้กรณีของน้องแอ๋ม และกลุ่มคนร้ายเป็นกรณีสุดท้ายที่สอนใจให้คนไทย และเยาวชนไทยไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับอบายมุขและยาเสพติด