ปัจจุบันกระแสลดการใช้เงินสดมาแรงขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าในต่างประเทศจะใช้บัตรแทนเงินสดกันมานานแล้ว แต่สำหรับประเทศไทย การใช้บัตรแทนเงินสด บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือแม้กระทั่งบัตรกดเงินสด ก็เหมือนจะยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่สำหรับคนหลาย ๆ กลุ่ม จึงคาดกันว่า น่าจะต้องใช้เวลามากพอสมควร เพื่อให้ประเทศไทยเปลี่ยนไปสู่สังคมไร้เงินสดได้
อย่างไรก็ตาม ในบรรดาบัตรที่ใช้แทนเงินสด คนไทยเราน่าจะคุ้นเคยกับบัตรเครดิตมากที่สุด เนื่องจากเป็นสิ่งที่ค่อนข้างใกล้ตัว และมีใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุดในกลุ่มคนทำงาน คนที่กำลังสร้างตัว และกลุ่มของนักช้อป นักท่องเที่ยว รวมถึงกลุ่มคนที่มีความรู้ในด้านการเงิน ก็มักจะถือบัตรเครดิตมากกว่า 1 ใบกันเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการทำความรู้จัก และทำความใจกับบัตรเครดิต จึงเป็นสิ่งที่ควรทำในยุคนี้
อย่างที่กล่าวไปในข้างต้น ว่ากลุ่มคนทำงาน และกลุ่มคนที่กำลังสร้างตัวนั้นน่าจะเป็นกลุ่มที่มีบัตรเครดิตกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งการคาดเดานี้สอดคล้องกับสถิติล่าสุดเมื่อจบปี 2560 ที่ผ่านมา ว่าคน Gen Y หรือคนที่เกิดในระหว่างปี 2523 – 2543 มีช่วงอายุระหว่าง 20-38 ปีนั้น เป็นช่วงอายุที่ถือบัตรเครดิตมากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงอายุอื่น โดยมีจำนวนมากกว่า 55% เลยทีเดียว ตามมาด้วย คน Gen X ซึ่งมีจำนวนราว 30% และท้ายสุดคือ Baby Bloomer ด้วยจำนวนราว 10%
นอกจากนี้ เรายังมีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ซึ่งเปิดเผยโดยผู้บริหารของธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงไทยอีกด้วย โดยข้อมูลสถิติในช่วงปี 2560 ที่ผ่านมา ทางกสิกรไทยพบว่ายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของธนาคาร ที่สูงที่สุดเป็น 3 อันดับแรก ได้แก่ การจ่ายประกัน การจ่ายค่าท่องเที่ยวและเดินทาง ส่วนลำดับสุดท้ายคือการจ่ายในเรื่องของความงามและสุขภาพ ซึ่งค่าใช้จ่ายรวมของ 3 หมวดนี้รวมกัน มีจำนวนมากถึง 45% ของยอดค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตทั้งหมด จากข้อมูลนี้ ทำให้ธนาคารกสิกรไทย วางแผนในปี 2561 เพื่อทำตลาดเน้นกลุ่มเดิม เนื่องจากกลุ่มนี้มีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตอย่างต่อเนื่องนั่นเอง
ส่วนข้อมูลจากผู้บริหารของทางธนาคารกรุงไทยนั้น เปิดเผยคล้ายกันว่าในช่วงปี 2560 ที่ผ่านมา ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของธนาคารกรุงไทย หรือบัตรเครดิต KTC ที่มียอดมากที่สุดเป็น 3 อันดับแรก ได้แก่ การจ่ายประกัน การจ่ายเกี่ยวกับการเดินทางท่องเที่ยว และลำดับสุดท้ายคือ การเติมน้ำมัน โดนการจ่ายประกันมีสัดส่วนมากกว่า 10 % การจ่ายเกี่ยวกับการเดินทางท่องเที่ยวมีสัดส่วนเป็น 10 % และการเติมน้ำมันมีสัดส่วนเป็น 9% ซึ่งอัตราการเติบโตของทั้ง 3 หมวดนี้ มีการเติบโตต่อเนื่องราว 10 -20% อีกด้วย คาดกันว่ามีสาเหตุมาจากผู้ถือบัตรเครดิตมีความต้องการใช้จ่ายสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากการเปิดเผยต่อมา ธนาคารกรุงไทยวางแผนการตลาดในปี 2561 ที่จะเพิ่มเติมในส่วนของสิทธิพิเศษ และสิทธิประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ให้มากขึ้นอีก ทั้งในส่วนของร้านค้าออนไลน์ ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ส่วนทิศทางการหาลูกค้าใหม่ จะปรับเปลี่ยนไปตามผลที่ได้รับจากเกณฑ์ที่เพิ่งออกมาใหม่จากธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ออกกฎให้จำกัดวงเงินสำหรับผู้มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ให้ไม่เกิน 1.5 เท่า ซึ่งทำให้การแข่งขันในฐานลูกค้ากลุ่มนี้ค่อนข้างรุนแรง ธราคารกรุงไทยจึงจะเจาะกลุ่มลุกค้าใหม่ ที่มีรายได้ 30,000 -50,000 บาทต่อเดือนให้มากขึ้น จากเดิมที่รายได้ของธนาคารกรุงไทยมาจากกลุ่มรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท ซึ่งถือเป็นฐานลุกค้ารายใหญ่ของธนาคารกรุงไทยเลยทีเดียว
จากข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผยในข้างต้น ทำให้เราได้รู้ถึงทิศทางของการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต และแนวทางการทำตลาดในปี 2561 ของธนาคารต่าง ๆ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อใครหลาย ๆ คน ยกตัวอย่างเช่น หากคุณมีรายได้มากกว่า 30,000 บาท ปีนี้จะมีโปรโมชั่น และสิทธิพิเศษดี ๆ ออกมาเพื่อดึงดูดให้คุณเข้าไปสมัครบัตรกับทางธนาคารกรุงไทยอย่างแน่นอน หรือหากคุณมีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท และมีบัตรเครดิตที่ให้วงเงินสูงอยู่กับตัวแล้ว ก็จงเก็บไว้ให้ดี อย่ายกเลิกไปเพราะหวังจะสมัครใหม่ให้ได้วงเงินเท่าเก่า เพราะกฎใหม่ออกมาแล้ว และหมายความว่าคุณจะได้วงเงินที่ต่ำกว่าเดิมอย่างแน่นอน รวมถึงหลาย ๆ คนที่อาจจะจ่ายค่าเบี้ยประกันด้วยเงินสด โดยไม่รู้ว่าการจ่ายค่าเบี้ยประกันรถยนต์ หรือค่าเบี้ยประกันชีวิตนั้นมีโปรโมชั่นผ่อนชำระ 0% ให้ด้วย ซึ่งนี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การจ่ายค่าเบี้ยประกันผ่านบัตรเครดิต เป็นหมวดที่มีสัดส่วนมากที่สุด
สำหรับใครที่เป็นสายเที่ยว สายกิน สายช้อป ก็จะได้รู้ว่าพวกคุณคือกลุ่มลูกค้าที่ทางสถาบันการเงินต้องการจะเข้ามาทำตลาดด้วยอย่างต่อเนื่อง นั่นหมายความว่าหลังจากนี้ก็จะยังมีสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมเข้ามาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็ควรที่จะหมั่นอัพเดทข้อมูลสิทธิพิเศษใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อประโยชน์สูงสุดที่คุณจะได้รับจากการถือบัตรเครดิตนั่นเอง
ทั้งหมดเป็นข้อมูลส่วนหนึ่งเท่านั้นเกี่ยวกับการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต และการถือบัตรเครดิต อีกด้านหนึ่งก็ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับหนี้บัตรเครดิตเปิดเผยออกมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน แต่ตราบใดที่คุณมีวินัยในการใช้จ่ายเงิน และรุ้วิธีที่จะใช้บัตรเครดิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสามารถใช้บัตรเครดิตได้อย่างคุ้มค่า บัตรเครดิตก็จะเป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีประสิทธิภาพในมือคุณเสมอ