การตลาดขายตรงนับเป็นการตลาดที่กำลังขยายตัวเป็นอย่างมากในประเทศไทย ทำให้มีการแข่งขันทางด้านการตลาดและโฆษณากันเป็นอย่างสูง ซึ่งในกรณีของกระทะโคเรียคิงนั้นมีจุดขายของสินค้า คือ ใช้น้ำมันน้อยในการปรุงอาหาร ช่วยรักษาสุขภาพในด้านการลดการรับเข้าปริมาณน้ำมันสู่ร่างกาย อีกทั้งกระทะยังได้รับการันตีคุณภาพด้วยการผลิตและควบคุมจากโรงงานในประเทศเกาหลี ซึ่งเดิมทีกระทะโคเรียคิง มีราคาเต็มสูงถึง 18,000 บาท แต่นำมาจัดโปรโมชั่นลดราคาขายที่ไทยที่นอกจากจะเหลือใบละ 3,000 กว่าบาทแล้ว ยังซื้อ 1 ใบแถมอีก 1 ใบอีกด้วย หรือเรียกได้ว่าจากเดิมที่กระทะราคาใบละ 18,000 กว่าบาท ราคาพิเศษจะอยู่ที่ใบละ 1,000 กว่าบาทเท่านั้นเอง ซึ่งต้องยอมรับว่าราคาถือเป็นแรงจูงใจจนทำให้กระทะโคเรียคิงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
ภาพ : www.koreakingthailand.com
อย่างไรก็ตามกระแสเรื่องการตั้งราคาของกระทะโคเรียคิงเริ่มถูกตั้งคำถาม เมื่อมีผู้โพสต์ภาพราคาของกระทะโคเรียคิงที่ถูกตั้งราคาขายที่ประเทศสิงคโปร์มีราคาเพียงแค่ 600 กว่าบาทเท่านั้น ทำให้บรรดาผู้บริโภคเกิดความรู้สึกข้องใจกับราคาที่แท้จริงของกระทะโคเรียคิงขึ้นมา ซึ่งในขณะที่ปัญหาดังกล่าวจะขยายวงกว้างออกไป ทางวู้ดดี้แบรนด์แอมบาสเตอร์ของกระทะโคเรียคิงก็ได้ออกมาตอบคำถามต่อสังคมผ่านรูปแบบการไลฟ์สดบอกเหตุผลที่ราคากระทะโคเรียคิงที่ประเทศสิงคโปร์มีราคาถูกกว่ารุ่นที่ขายอยู่ที่เมืองไทยนั้นก็เนื่องมาจากกระทะที่วางขายที่สิงคโปร์ที่ถูกถ่ายรูปราคามานั้นเป็นกระทะที่เป็นคนละรุ่นกับที่วางขายในประเทศไทย เป็นกระทะขนาดเล็กรุ่นประหยัด ไม่ใช่เกรดพรีเมี่ยมเหมือนที่วางขายในประเทศไทยจึงทำให้มีราคาที่แตกต่างกันนั่นเอง
แต่ทว่าดูเหมือนว่าปัญหาด้านการตั้งราคาของกระทะโคเรียคิงจะไม่จบลงได้ง่ายๆเสียแล้ว เมื่อล่าสุดทางกรมการค้าภายในได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือสคบ.มาตรวจสอบความสมเหตุสมผลของราคาที่ทางโคเรียคิงได้แจ้งให้ลูกค้าทราบว่าสอดคล้องเหมาะสมหรือไม่ เพราะหากมีการตั้งราคาที่สูงเกินไปเพื่ออาศัยการลดราคามาดึงดูดใจของผู้บริโภคก็อาจจะเข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยเรื่องของการขายตรงและการตลาดแบบตรง ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของหน่วยงานสคบ.อีกด้วย ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งกรรมการสอบสวนอยู่นั่นเอง
ภาพ : potsandpansite.files.wordpress.com
จากกรณีของกระทะโคเรียคิงนั้นไม่ว่ารูปคดีจะออกมาเป็นอย่างไร แต่บรรดาผู้บริโภคก็ควรจะรู้เท่าทันถึงเทคนิคการโฆษณาของสินค้าชนิดต่างๆว่ามีความสมเหตุสมผลหรือไม่ อย่าให้คำว่าการลดราคาสินค้ามาหลอกลวงให้หลงเชื่อกันได้ง่ายๆ แต่ควรพิจารณาถึงความสมเหตุสมผลของราคาสินค้า ว่าสอดคล้องและตรงตามคุณภาพของสินค้านั้นๆจริงหรือไม่ ดังนั้นการใช้สติพิจารณาความสมเหตุสมผลของราคาและคุณภาพของสินค้าทุกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าทุกประเภท