ภาพ : https://www.thairath.co.th/content/954530#&gid=null&pid=1
เนื่องจากในขณะนี้ได้มีนโยบายการตรวจค้นเพื่อปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง เพื่อลดปัญหาการก่ออาชญากรรมต่าง ๆ และเพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่างแก่เยาวชน นอกจากนี้ มีการร้องเรียนไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจว่า พรรคพวกของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ มีการพกปืนไปในที่สาธารณะ ดังนั้น ในระยะเวลาที่ผ่านมาจึงมีข่าวออกมาเป็นระยะว่าผู้มีอิทธิพลคนดังต่าง ๆ ของจังหวัดอุทัยธานีได้ถูกตรวจค้น
ภาพ : http://www.komchadluek.net/news/hotclip/279505
ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมาได้มีการกระจายกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 100 นาย เพื่อตั้งด่านสกัดขบวนรถยนต์ของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต ส.ส. จังหวัดอุทัยธานี ของพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งเป็นผู้ที่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีผู้มีอิทธิพลของตำรวจ ซึ่งการกระจายกำลังตั้งด่านในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบล่วงหน้าแล้วว่า นายชาดา ไทยเศรษฐ์ จะมีการเดินทางไปเป็นประธานพิธีเผาศพให้กับลูกน้องซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ
โดยหลังจากเสร็จจากพิธีเผาศพที่พื้นที่หมู่ 2 ตำบลหลุมเข้า อำเภอหนองขาหย่าง จังหวัดอุทัยธานีแล้ว นายชาดาเดินทางออกจากวัดด้วยรถโตโยต้า เวลไฟร์ สีขาว ป้ายทะเบียน 4 กค 5012 กทม. ซึ่งเป็นรถคันแรกจากขบวนรถที่ตามออกมาอีก 7 คัน ในขณะที่ขบวนรถเดินทางออกจากวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จอดรถรอเพื่อสังเกตการณ์อยู่ เมื่อขบวนรถของนายชาดาผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้เข้าขวางขบวนรถ และเจ้าหน้าที่กองปราบอีกชุดพร้อมอาวุธปืนได้บุกเข้าชาร์จเพื่อทำการตรวจค้นขบวนรถทันที
ในตอนแรกรถที่ถูกด่านตำรวจจับมีทั้งหมด 7 คัน ส่วนรถคันแรกหลบหนีจากจุดสกัดไปได้ แต่ตอนหลังตำรวจสามารถไล่ล่าตามจับกุมได้ ซึ่งจุดที่ตามจับกุมได้อยู่ห่างจากจุดที่ตั้งด่านประมาณ 5 กิโลเมตร ซึ่งรถคันที่หลบหนีเป็นรถที่นายชาดาโดยสารอยู่ จากการตรวจค้นภายในรถคันที่นายชาดานั่งโดยสารอยู่พบว่ามีคนนั่งอยู่ 3 คนรวมนายชาดาด้วย ในตัวของนายชาดาไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย ส่วนผู้ติดตามอีก 2 คนตรวจพบอาวุธปืนสั้นมีทะเบียน 3 กระบอกพร้อมกระสุน แต่ไม่มีใบอนุญาตพกพา นอกจากนี้ภายในรถคันที่นายชาดานั่งพบว่ามีกระเป๋าหนังกุ๊ชชี่สีดำลายแดงเขียววางอยู่ซึ่งในกระเป๋ามีหนังสือเดินทางของนายชาดา และยาอีปั๊มตราแอลวี 1 เม็ด โดยนายจักรกฤษ ประสิทธิ์ผู้ซึ่งเป็นคนขับรถรับว่าเป็นกระเป๋าของตนเอง
ภาพ : https://www.thairath.co.th/content/954530#&gid=null&pid=1
ส่วนขบวนรถที่ติดตามมาอีก 7 คันมีการตรวจพบอาวุธปืนสั้น 3 กระบอกพร้อมกระสุนวางอยู่ภายในตัวรถ จึงมีการแจ้งข้อหาว่า พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญทุกคนไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองอุทัยธานี เพื่อทำการตรวจค้นรถอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายเพิ่มเติมแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยึดปืนที่ตรวจพบเพื่อนำไปตรวจสอบว่าปืนเหล่านี้เคยถูกนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรมหรือไม่ การดำเนินการตามนโยบายตรวจสอบผู้มีอิทธิพลก็เพื่อให้เด็กและเยาวชนไทยไม่เห็นว่าการพกอาวุธในที่สาธารณะเป็นสิ่งที่ทำได้ รวมถึงไม่เลียนแบบหรือทำตามจนก่อให้เกิดเหตุไม่ดีขึ้นในสังคมไทยของเรา