ภาพ : voicetv.co.th
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 เวลา 20:30 น. ได้เกิดเหตุเสียงดังคล้ายระเบิดบริเวณหน้าโรงละครแห่งชาติ ถนนราชินี ข้างสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ย่านสนามหลวง แขวงพระบรมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ โดยเบื้องต้นพบผู้ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ดังกล่าว 2 รายเป็นผู้หญิงทั้งคู่ ทางเจ้าหน้าที่จึงเร่งนำส่งผู้บาดเจ็บไปยังสถานพยาบาล พร้อมกับนำทีมเจ้าหน้าที่ EOD เข้ามาตรวจสอบพื้นที่เบื้องต้นพบว่าไม่มีสารประกอบระเบิด จึงได้มีการเร่งสืบหาสาเหตุและหลักฐานอื่น ๆ เพิ่มเติม
ภาพ : http://www.thairath.co.th/
จนในวันที่ 16 พฤษภาคม 2560 ทางกองบัญชาการนครบาลได้รายงานความคืบหน้าจากการเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุเพิ่มเติมโดยเจ้าหน้าที่ชุดสอบสวน โดยได้พบหลักฐานเพิ่มเติมเป็นไอซี ไทม์เมอร์ ซึ่งเป็นชิ้นส่วนหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ประกอบเป็นระเบิดไปป์บอมบ์ ซึ่งพบตกอยู่บนพื้นห่างจากจุดที่เกิดการระเบิดไปประมาณ 15 เมตร โดยทางตำรวจได้ทำการติดตามตรวจสอบหลักฐานดังกล่าวเพิ่มเติมจนพบว่าไอซี ไทม์เมอร์ที่พบนั้นมีลักษณะเหมือนกับที่เคยพบเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2560 ที่มีการวางระเบิดไปป์บอมบ์บริเวณหน้ากองสลากกินแบ่งรัฐบาลเก่าที่ตั้งอยู่บนถนนราชดำเนินกลาง จึงสันนิษฐานว่าทั้ง 2 เหตุการณ์น่าจะมีความเกี่ยวข้องกัน และคาดว่าไปป์บอมบ์ที่พบน่าจะประกอบขึ้นโดยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ เพราะขนาดของไปป์บอมบ์ที่พบในครั้งนี้มีขนาดเล็กกว่าไปป์บอมบ์ที่เกิดระเบิดที่หน้ากองสลาก ทำให้ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจพบสารประกอบระเบิดในที่เกิดเหตุได้ อีกทั้งยังมีการพบท่อพีวีซีแตกหักในที่เกิดเหตุ แต่เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ชุดสอบสวนคาดว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการระเบิด เหตุที่ท่อพีวีซีแตกมาจากการที่คนร้ายวางวัตถุระเบิดไว้ใกล้กับท่อพีวีซีเท่านั้น
อย่างไรก็ตามทางกองพิสูจน์หลักฐานจะยังตรวจสอบหาร่องรอยและสารสกัดต่าง ๆ ที่อาจติดอยู่บนหลักฐานต่าง ๆ ที่รวบรวมมาได้เพิ่มเติมต่อไป อาทิ ลายมือแฝง และดีเอ็นเอ เป็นต้น ซึ่งจะต้องนำวัตถุพยานต่าง ๆ ที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุส่งเข้าไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการเพื่อพิสูจน์หาหลักฐานทางนิติวิทยาต่อไป คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน โดยไอซี ไทม์เมอร์ที่พบเป็นหลักฐานนั้นมีหน้าที่ตั้งเวลาเพื่อจุดระเบิด ซึ่งทาง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดูแลด้านความมั่นคงได้สั่งการให้ชุดสอบสวนนำภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงมาตรวจสอบเพื่อหาภาพผู้ต้องสงสัยเพิ่มเติมต่อไป
ภาพ : http://www.thairath.co.th/
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นทาง พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาค 1 ได้ออกมาสันนิษฐานว่าเหตุการณ์ระเบิดดังกล่าวอาจเป็นเพียงการสร้างสถานการณ์เท่านั้น โดยไม่ได้มุ่งหวังต่อชีวิต แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอให้การสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วเสร็จเสียก่อน ซึ่งในขณะนี้ก็ยังตั้งข้อสงสัยเอาไว้หลายประเด็นด้วยกัน